รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหา ‘ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์’
รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหา “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ชาวยูเครน หลังถูกระบุโจมตีโรงพยาบาลเด็กในยูเครนและถูกต้องสงสัยใช้อาวุธเคมีชีวภาพ ขณะที่ศึกยูเครน – รัสเซีย ย่างสู่สัปดาห์ที่ 3
กองทัพรัสเซียยังใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตียูเครนอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ สถานการณ์ยืดเยื้อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 นับตั้งแต่กองทัพรัสเซียเริ่มปฏิบัติการบุกยูเครนอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันพฤหัสบดี 24 ก.พ. โดยล่าสุด ยูเครนระบุกองทัพรัสเซียยิงจรวดโจมตีเป้าหมายโรงพยาบาลเด็กในเมืองมาริอูโปว ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย รวมถึงเด็ก 1 ราย ผู้บาดเจ็บอีกกว่า 10 ราย พฤติกรรมเยี่ยงนี้ ถือเป็นการ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ชาวยูเครน ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ โดยทำเนียบขาว กล่าวหารัสเซียกำลังวางแผนใช้อาวุธเคมีชีวภาพในยูเครน
นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว แถลงระบุข้ออ้างของรัสเซียที่ระบุเรื่องห้องทดลองอาวุธเคมีและชีวภาพของสหรัฐฯในยูเครนนั้น คือเรื่องงี่เหง้า โกหกและเป็นข่าวเท็จ มีแต่รัสเซียเท่านั้นที่จะใช้อาวุธเคมีชีวภาพในยูเครน ข้อพิสูจน์เรื่องนี้พัวพันได้ถึงสถานการณ์สงครามกลางเมืองในซีเรียก็ยังมีรายงานการใช้อาวุธเคมีโดยฝ่ายรัสเซีย สหรัฐฯเรียกร้องให้ทุกฝ่ายจับตาดูความเคลื่อนไหวการใช้อาวุธในยูเครนอย่างใกล้ชิด
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า รัสเซียใช้จรวด “เทอร์โมบาริค” – Thermobaric ระเบิดละอองอากาศ หรือ Vacuum Bombs – ระเบิดสุญญากาศ ในยูเครน ซึ่งระเบิดชนิดนี้อานุภาพทำลายล้างสูงและเจาะทะลุทะลวงทำลายทั้งภายในอาคารและพื้นที่หลุมหลบภัยใต้ดิน ก่อให้เกิดความห่วงกังวลต่อชีวิตผู้คนในยูเครนอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายรัสเซียแถลงปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยระบุถึงอาคารโรงพยาบาลเด็กที่ถูกโจมตีนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงโรงพยาบาลเก่าและถูกทหารยูเครนยึดเอาไว้เป็นฐานกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัสเซีย.