หวั่นบินเหนือน่านฟ้ายูเครนไม่ปลอดภัย
ยูเครนทุ่มงบประมาณเกือบ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯรับประกันความปลอดภัยการบินเหนือน่านฟ้ายูเครน หลังเกิดกระแสหวั่นวิตกเหตุซ้ำรอยกรณีเที่ยวบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ ถูกขีปนาวุธยิงร่วงเหนือพื้นที่ความขัดแย้งทางภาคตะวันออกยูเครนเมื่อปี 2514
นายกรัฐมนตรีเดนีส์ ชิมฮาล ผู้นำยูเครน ระบุรัฐบาลยูเครนอนุมัติงบประมาณ 592 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รับประกันความปลอดภัยการบินเหนือน่านฟ้ายูเครน ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดกรณีรัสเซียส่งกำลังทหารมากกว่า 1 แสนนาย ตรึงกำลังบริเวณชายแดนด้านตะวันออกของประเทศ ส่งผลให้เกิดความหวั่นวิตกรัสเซียอาจบุกยูเครนได้ทุกเวลา
มาตรการรับประกันความปลอดภัยการบินเหนือน่านฟ้ายูเครนและคำยืนยันเปิดน่านฟ้าการบินพานิชย์ตามปกติ เกิดขึ้นภายหลังจากสายการบินเคแอลเอ็มของเนเธอร์แลนด์ ประกาศระงับเที่ยวบินเดินทางไปกรุงเคียฟของยูเครน ด้วยข้ออ้างหวั่นความไม่ปลอดภัยและต้องเสียเงินค่าประกันการเดินทางสูงขึ้นมาก
ท่าทีของของสายการบินเคแอลเอ็ม ทำให้สายการบินอื่นๆทั่วโลกต้องพิจารณาเที่ยวบินผ่านน่านยูเครนหรือไม่ก็ต้องบินอ้อมพื้นที่ความขัดแย้ง เพื่อความปลอดภัย ส่งผลให้แต่ละสายการบินต้องมีค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงสูงขึ้น อีกทั้งบริษัทประกันภัยและบริษัทเช่าซื้อเครื่องบินต่างพากันวิตกห่วงกังวลเรื่องนี้ เพราะหวั่นเกิดกรณีซ้ำรอยเที่ยวบิน “เอ็มเอช 17” ของมาเลเซีย แอร์ไลน์ ถูกขีปนาวุธยิงตกเหนือพื้นที่ความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซียเมื่อเดือนก.ค. ปี 2514 ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือเที่ยวบินนั้นเสียชีวิตทั้งหมด 298 ราย
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันอาทิตย์ 13 ก.พ. สายการบินชั้นประหยัด “สกายอัพ” ของยูเครนบินจากโปรตุเกสสู่กรุงเคียฟ ถูกสั่งให้ลงจอดในมอลโดวา หลังจากบริษัทเช่าซื้อเครื่องบินลำดังกล่าวประกาศถอนสิทธิครอบครองเครื่องบินถ้าสายการบินเดินทางเข้าน่านฟ้ายูเครน ทั้งสั่งให้เครื่องบินในครอบครองทั้งหมดกลับเข้าอยู่ในพื้นที่น่านฟ้ากลุ่มชาติสหภาพยุโรปภายใน 48 ชั่วโมง
นอกจากนั้น ยังมีรายงานจากนักบินสายการบินบริทิช แอร์เวย์แห่งอังกฤษ อ้างผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ระบุเที่ยวบินจากกรุงลอนดอนสู่กรุงเทพฯ ต้องบินเดินทางนานกว่าปกติ เพราะสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจถ้าบินเดินทางเหนือน่านฟ้ายูเครน.