เฟซบุ๊กถูกกดดันให้ช่วยทางการ
ข่าวการค้นพบหลักฐานการแทรกแซงของรัสเซียที่มีต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯในปี 2559 ถือเป็นการผสมผสานการใช้เทคนิคแบบดั้งเดิมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหยุดยั้ง ถึงแม้แต่ตอนนี้ก็ยังมีการใช้วิธีการเช่นนี้อยู่ อ้างอิงจากผู้เชี่ยวชาญ
บริษัทโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ถูกกดดันอย่างหนักจากทางการสหรัฐฯ ให้ค้นหาวิธีที่จะหยุดสิ่งที่มักเรียกกันว่า ‘ สงครามข้อมูล’ ที่ปะปนอยู่ในการให้บริการของบริษัท
เมื่อวันที่ 16 ก.พ. Robert Mueller ที่ปรึกษาพิเศษประกาศว่า มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่า มีชาวรัสเซีย 13 คนที่มีส่วนในการแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ในปี 2559 โดยใช้วิธีการสืบค้นย้อนหลังจากเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดในประเด็นนี้
โดยกระบวนการที่รัสเซียใช้คือ การเปิดบริษัทบังหน้าและมีการขโมย ID ใช้โครงข่ายส่วนตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับทางออนไลน์ และจ่ายเงินให้ชาวอเมริกันที่ไม่รู้ตัว ซึ่งชี้ให้เห็นว่า แม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่และทรงอิทธิพลอย่างเฟซบุ๊กก็ไม่อาจรู้เท่าทันและหยุดกระบวนการที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนเช่นนี้ได้
สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ ระบุว่า รัสเซียพยายามที่จะเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งกลางเทอมในปี 2561 นี้ด้วย และจะใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือแพร่กระจายข่าวลวงอีกครั้ง
“ โซเชียลมีเดียไม่สามารถหยุดเรื่องนี้ได้ เพราะเป็นเรื่องยากที่จะเกาะติดและแกะรอยได้” Ann Ravel อดีตสมาชิกของคณะกรรมการการเลือกตั้งส่วนกลางของสหรัฐฯ กล่าว การซื้อโฆษณาแบบปกปิดซ่อนเร้นบนเฟซบุ๊กผ่านบุคคลปลอมๆเป็นเรื่องที่ต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง
เพื่อให้ทราบถึงตัวตนที่แท้จริงของผู้ซื้อโฆษณา บริษัทอินเทอร์เน็ตเหล่านี้อาจต้องมีสำเนาบัญชีธนาคารของผู้ลงโฆษณาและสามารถแชร์ข้อมูลกับทางการได้ Ravel กล่าว
ทั้งนี้ เฟซบุ๊กแถลงเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ว่า บริษัทกำลังมีการลงทุนครั้งสำคัญเพื่อป้องกันการโจมตีในอนาคตและทำงานประสานกับ FBI เพื่อยับยั้งการแทรกแซงการเลือกตั้ง
โดยรัสเซียเริ่มต้นการสอดแนมและสำรวจข้อมูลล่วงหน้าเป็นเวลา 3 สัปดาห์ในปี 2557 เมื่อสองคนในทีมเดินทางมาปฏิบัติการใน 9 รัฐของสหรัฐฯ รวมทั้งรัฐโคโลราโดและมิชิแกน อ้างอิงจากหลักฐานที่พบ พวกเขามีอุปกรณ์ที่ใช้งานคือกล้อง ซิมการ์ด โทรศัพท์แบบใช้แล้วทิ้ง และในกรณีที่จำเป็น ก็จะมีสถานการณ์การหลบหนีอย่างรวดเร็ว
ในการแถลงยังระบุว่า สำนักงานวิจัยอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยงกับรัสเซียในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้น และได้รับการสนับสนุนทางการเงินประจำปีเป็นจำนวนหลายล้านดอลลาร์ มีการจ้างงานนับร้อยอัตรา และมีหลายแผนกที่ทำงานให้โครงการพิเศษ เช่นการหาค่าที่เหมาะที่สุดของเสิร์ชเอ็นจิ้น และการทำกราฟิก นอกจากนี้ ฝ่ายรัสเซียถูกกล่าวหาว่าขโมยเลขประกันสังคมของชาวอเมริกันเพื่อเปิดบัญชีการจ่ายเงินระบบดิจิทัล PayPal พวกเขาซื้อพื้นที่เซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ เพื่อใช้โครงข่ายส่วนตัวปิดบังตัวตนที่แท้จริงและสวมรอยเป็นชาวอเมริกัน
เฟซบุ๊กสามารถทำได้ดีกว่านี้ด้วยการจับตาดูแพลตฟอร์ม และใช้บริษัทซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลเพื่อพิสูจน์ตัวคนของผู้ซื้อขายบิตคอยน์ Jordan Lieberman ประธานบริษัทโฆษณา Audience Partners กล่าว แต่ถ้าเฟซบุ๊กมีการตรวจสอบที่เข้มงวดมากขึ้น “ ก็จะเป็นการหยุดยั้งรายได้ที่จะเข้ามาและอาจทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น”.