ทรัมป์เผยแผนยกเครื่องโครงสร้างพื้นฐาน
คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯจะให้รายละเอียดของแผนในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯในวันที่ 12 ก.พ.โดยจะใช้เงินงบประมาณจำนวน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 47.73 ล้านล้านบาท
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวอาวุโสระบุว่า แผนงบประมาณของประธานาธิบดี ที่มีกำหนดจะเผยแพร่ในวันที่ 12 ก.พ.จะรวมถึงงบประมาณจำนวน 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 6.36 ล้านล้านบาท) ในโครงการซ่อมแซมถนน สะพาน และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆที่จำเป็น ภายใต้ข้อเสนอนี้ ทางรัฐและนักลงทุนภาคเอกชนจะระดมทุนในส่วนที่เหลือคือ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
โดยประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเป็นนักลงทุนด้านธุรกิจก่อสร้างมาก่อน ได้เสนอให้มีการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯเป็นแคมเปญหลักและได้ประกาศแผนการลงทุนด้วยงบประมาณ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการแถลงนโยบายประจำปีต่อสภาคองเกรสเมื่อเดือนที่แล้ว
เมื่อวันที่ 12 ก.พ.คณะทำงานของประธานาธิบดีจะให้รายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้น รวมทั้งไอเดียในการตัดลดระยะเวลาของกระบวนการขออนุมัติลงเหลือ 2 ปี
“ เห็นชัดว่า โครงสร้างพื้นฐานเป็นส่วนประกอบสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ความสำเร็จจำนวนมากของชาวอเมริกันเป็นผลมาจากคุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานที่เรามีมาในประวัติศาสตร์” เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวอาวุโสให้ความเห็น
“ แต่ระบบปัจจุบันพื้นฐานเสียหายหมดแล้ว เรากำลังเริ่มที่จะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของเราและเราได้อนุมัติกระบวนการที่ใช้เวลานานเกินไป แม้เงินทุนจะพอเพียง ก็ใช้เวลานานเป็นทศวรรษกว่าจะมีการจัดสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ”
ในตอนนี้ จะมีการเสนอไปที่สภาคองเกรสเพื่อเปิดอภิปราย และประธานาธิบดีทรัมป์จะโน้มน้าวให้ตัวแทนจากทั้งสองสภามาที่ทำเนียบขาวในวันที่ 14 ก.พ.เพื่อพิจารณาเรื่องนี้ ผู้นำสหรัฐฯจะต้องเผชิญกับคำถามที่ดุเดือดเกี่ยวกับสิ่งที่รัฐบาลตั้งใจจะลงทุน รวมถึงคำถามเกี่ยวกับงบประมาณในส่วนการป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
โดยรัฐบาลของทรัมป์ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนมาตลอด และเขาเคยเรียกภาวะโลกร้อนว่า เป็นเรื่องโกหกหลอกลวง
ฝ่ายงบประมาณมีแนวโน้มที่จะตั้งคำถามว่า จะมีเงินมาจากไหน เนื่องจากมีการจัดเก็บภาษีในอัตราใหม่ และทางสภาคองเกรสมองว่า ผลจากภาษีในอัตราใหม่จะส่งผลทำให้รัฐบาลขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น
คณะกรรมการงบประมาณกลางประเมินว่า แผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสในสัปดาห์ที่แล้ว จะเป็นการเพิ่มตัวเลขการขาดดุลงบประมาณถึง 420,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 10 ปีนี้
รัฐบาลทรัมป์ระบุว่า การลงทุนจะมาจากการลดงบประมาณในโครงการอื่นลง ซึ่งจะอยู่ในกรอบของร่างงบประมาณของเขา ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวอาวุโสเชื่อว่า แผนการนี้จะเป็นการเปิดฉากซัดกันไปมาในสภาคองเกรส
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การยกเครื่องสภาพถนน รางรถไฟ และระบบการบินที่ย่ำแย่ อาจทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯดิ่งเหว เนื่องจากต้องใช้งบประมาณในการปรับปรุงที่สูงลิ่ว
อ้างอิงจากความเห็นของ Heny Petroski ซึ่งเป็นวิศวกรโยธา เขาระบุว่า เฉพาะการแก้ไขความแออัดของการจราจรเพียงอย่างเดียว อาจทำให้สหรัฐฯต้องเสียงบประมาณสูงถึง 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 3.81 ล้านล้านบาท).