ทรัมป์ชี้เงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น
เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อ CNBC ว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆภายใต้การบริหารประเทศของเขา และทำให้ถ้อยแถลงของ Steven Mnuchin รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯเกี่ยวกับค่าเงินดอลลาร์เป็นการตีความที่ผิด
“ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ และที่สุดแล้ว ผมต้องการเห็นเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า” ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์สื่อจากประชุม World Economic Forum (WEF) ในเมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์
“ประเทศของเรากำลังจะมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอีกครั้ง และแข็งแกร่งในด้านอื่นๆด้วย”
การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ของเขาเกี่ยวกับค่าเงินดอลลาร์ ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับความเห็นที่ผ่านมาของเขา โดยเมื่อเดือนเม.ย.ปี 2560 เขาเคยระบุว่า เขากังวลว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าเกินไป
ในการประชุม WEF เมื่อวันที่ 24 ม.ค. Mnuchin รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ขานรับกับเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงด้วยความยินดี โดยเขาเสริมว่า จะส่งผลดีและเป็นประโยชน์กับการค้าของประเทศ เมื่อวันที่ 25 ม.ค. เขากล่าวว่า ความเห็นของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเงินดอลลาร์ บางทีความเห็นของเขาอาจแตกต่างเล็กน้อยจากรัฐมนตรีคลังคนก่อน ซึ่งเพิ่งให้ความเห็นเกี่ยวกับการแข็งค่าของเงินดอลลลาร์
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัม์กล่าวว่า ความเห็นของ Mnuchin อยู่นอกบริบท โดยเสริมว่าเขาอ่านจากคำแถลงการณ์ของเขาจริงๆ
ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีคลัง Mnuchin ชี้ว่า ดัชนีซื้อขายเงินดอลลาร์ลดลง 2% โดยเมื่อวันที่ 25 ม.ค ดัชนีซื้อขายอยู่ที่ 88.75 จุด เกือบอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี ซึ่งการซื้อขายเมื่อวันที่ 24 ม.ค.ตัวเลขการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 90 จุด
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ผู้นำสหรัฐฯ ยังได้ให้สัมภาษณ์สื่อถึงการทำข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ TPP ว่า เขาจะพิจารณาในการเข้าร่วมทำข้อตกลงอีกครั้ง หากสหรัฐฯได้ผลประโยชน์ที่ดีขึ้นกว่าเดิม แต่อาจจะสายไปสำหรับสหรัฐฯที่จะเจรจาเรื่องข้อตกลงใหม่
“ผมจะเข้าร่วม TPP หากเราสามารถทำข้อตกลงที่ดีกว่าเดิม เพราะดีลที่ทำไว้ก่อนหน้านี้มันแย่มาก โครงสร้างมันแย่มาก หากเราสามารถทำข้อตกลงใหม่ได้ในสาระสำคัญ ผมจะเปิดกว้างรับ TPP” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์ที่การประชุม World Economic Forum ในเมืองดาวอส
อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐฯ อาจช้าเกินไปที่จะคิดเรื่องการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการเจรจา TPP เนื่องจากสัปดาห์นี้ 11 ประเทศสมาชิกที่เหลือของ TPP ตกลงที่จะเดินหน้าทำข้อตกลงต่อไปโดยไม่มีสหรัฐฯ โดยญี่ปุ่นและออสเตรเลียมีบทบาทสำคัญของการแก้ไขข้อตกลงนี้ ซึ่งมีแนวโน้มจะลงนามได้ในเดือนมี.ค.ที่จะถึง
ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวโทษว่า ข้อตกลงการค้าเสรีเป็นสาเหตุทำให้การจ้างงานในภาคการผลิตในประเทศหายไป และบริษัทไปจัดตั้งอยู่นอกสหรัฐฯ เขาชี้ว่า การทำข้อตกลงการค้าทวิภาคีได้ประโยชน์มากกว่า
“ผมชอบข้อตกลงแบบทวิภาคี เพราะถ้าคุณมีปัญหา คุณก็หยุดได้ คุณไม่มีทางเลือกที่จะทำแบบนั้นในข้อตกลงแบบพหุภาคี” เขากล่าว
นอกจากนี้ เขายังย้ำว่า เขาอาจระงับข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ NAFTA ด้วย หากสหรัฐฯ ไม่ได้ผลประโยชน์ที่ดีกว่าเดิมในการเจรจา“ผมคิดว่าเรามีโอกาสที่ดี แต่ต้องมาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น” เขากล่าวถึงโอกาสที่สหรัฐฯอาจไม่อยู่ต่อในข้อตกลงการค้าเสรีกับแคนาดาและเม็กซิโก.