“โอมิครอน” แอฟริกาใต้เชื่อมั่นผ่านจุดสูงสุดแล้ว
แอฟริกาใต้ ยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิว เชื่อมั่นผ่านพ้นจุดสูงสุดการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนแล้ว แต่ยังแจ้งเตือนผู้คนตระหนักมาตรการป้องกันการระบาดอย่างต่อเนื่องและเร่งเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิ
รัฐบาลแอฟริกาใต้ออกแถลงการณ์เมื่อ 30 ธ.ค.ยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิว ห้ามผู้คนออกจากเคหาสถานยามวิกาลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนถึง 04.00 น. ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมี.ค.ปี 2020 หลังเกิดการระบาดโควิด-19 ทั่วโลก ขณะที่แอฟริกาใต้ ถือเป็นแหล่งเริ่มต้นการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน มาตั้งแต่ช่วงเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้เชื้อสายพันธุ์โอมิครอนระบาดไปทั่วโลกแล้วมากกว่า 100 ประเทศหรือดินแดน
ทั้งนี้ สถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เริ่มระบาดลดลงแล้วในแอฟริกาใต้ตั้งแต่ช่วงหลังเทศกาลคริสต์มาสเมื่อ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยตัวเลขพบผู้ติดเชื้อลดลงมาอยู่ที่เฉลี่ยวันละ 89,781 ราย จากก่อนหน้านั้นเฉลี่ยวันละ 127,753 ราย อีกทั้งอัตราผู้ป่วยติดเชื้อต้องเข้าโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิตลดลง ทำให้รัฐบาลเชื่อมั่นผ่านพ้นสถานการณ์ระบาดสูงสุดแล้ว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลแอฟริกาใต้ยังคงมาตรการเข้มงวดด้านสาธารณสุขและเตรียมพร้อมรับผู้ป่วยโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทั้งเร่งรณรงค์ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันเข็ม 3 โดยเร็วเท่าที่ดำเนินการได้
ส่วนมาตรการปลดล็อก ยกเลิกเคอร์ฟิว มีผลทำให้ประชาชนสามารถใช้บริการต่างๆได้สะดวกมากขึ้น อนุญาตขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และนั่งดื่มตามร้านได้ถึงเวลา 23.00 น. อนุญาตการชุมนุมตามสถานที่ปิดได้ไม่เกิน 1,000 คน และสถานที่เปิดโล่งแจ้ง อนุญาตชุมนุมได้ไม่เกิน 2,000 คน
ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วประเทศแอฟริกาใต้ ล่าสุด อยู่ที่ 3.5 ล้านราย ผู้เสียชีวิตสะสม 90,000 ราย ยังสูงมากกว่าประเทศอื่นๆในทวีปแอฟริกา ขณะที่ทั่วโลกยังคงหวาดผวาภัยคุกคามจากโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน.3 ไฟล์แนบ