รัฐบาลสหรัฐฯชัทดาวน์
รัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มชัทดาวน์หลายหน่วยงานภาครัฐหลังจากวุฒิสภาไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณฉบับใหม่ได้
โดยกฎหมายงบประมาณฉบับนี้ ซึ่งจะเป็นทุนให้รัฐบาลกลางใช้จ่ายได้จนถึงวันที่ 16 ก.พ.ไม่ได้รับเสียงเห็นชอบถึง เกณฑ์ 60 เสียงหลังจากมีการอภิปรายโต้แย้งกันในประเด็นการรับผู้อพยพเข้าเมืองและความมั่นคงทางพรมแดน
ทั้งนี้ การหยุดชะงักของการใช้จ่ายงบประมาณครั้งนี้จะส่งผลต่อเจ้าหน้าที่รัฐหลายแสนคน
ทางทำเนียบขาวกล่าวหาพรรคเดโมแครตว่า “ มีการเล่นการเมืองกับความมั่นคงของประเทศ ครอบครัวของทหาร เด็กๆที่อ่อนแอ และความสามารถของประเทศที่จะรับใช้ชาวอเมริกัน”
แต่ Chuck Schumer ผู้นำเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กลับคำพูดกับข้อตกลงที่เคยทำไว้และไม่กดดันพรรคของเขาในสภาคองเกรส
ครั้งล่าสุดที่รัฐบาลชัทดาวน์คือในปี 2556 ในสมัยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา และอยู่ในสภาพนี้นานถึง 16 วัน
ตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันที่ 20 ม.ค.ตามเวลาท้องถิ่น หน่วยงานของรัฐบาลกลางหลายแห่งจะไม่เปิดทำการ แม้บางบริการที่สำคัญจะยังคงดำเนินการต่อได้
โดยเจ้าหน้าที่รัฐในฝ่ายที่เกี่ยวกับการเคหะ สิ่งแวดล้อม การศึกษา และพาณิชย์จะต้องอยู่บ้าน โดยครึ่งหนึ่งของเจ้าหน้าที่ในกระทรวงการคลัง สาธารณสุข กลาโหม และคมนาคมจะไม่ต้องทำงานในวันที่ 22 ม.ค.
อุทยานแห่งชาติและอนุสรณ์สถานจะถูกปิด ซึ่งสถานการณ์นี้เคยก่อให้เกิดความไม่พอใจกับสาธารณชนในการชัทดาวน์ของรัฐบาลครั้งล่าสุดเมื่อปี 2556
นอกจากนี้ กระบวนการในการทำวีซ่าและหนังสือเดินทางอาจต้องล่าช้าออกไปด้วย
แต่หน่วยงานสำคัญที่ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ทั้งกองกำลังความมั่นคงแห่งชาติ บริการไปรษณีย์ การควบคุมการจราจรทางอากาศ บริการทางการแพทย์สำหรับคนไข้ที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาล บริการทางการแพทย์ฉุกเฉินสำหรับคนไข้นอก หน่วยกู้ภัย เรือนจำ และการไฟฟ้า
ประเด็นสำคัญของการโต้แย้งในสภามาจากความต้องการของพรรคเดโมแครตที่ต้องการปกป้องผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารถูกต้องตามกฎหมายมากกว่า 700,000 คนซึ่งลักลอบเข้าสหรัฐฯ มาตั้งแต่เด็กไม่ให้ถูกรัฐบาลเนรเทศ
โดยเหล่าบรรดา Dreamers หรือคนหนุ่มสาวจำนวนนี้ได้รับสถานะทางกฎหมายชั่วคราวภายใต้โครงการที่จัดตั้งขึ้นในสมัยอดีตประธานาธิบดีโอบามา
พรรคเดโมแครตไม่พอใจที่ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่สนใจโครงการนี้ และมีแนวโน้มจะไล่ผู้อพยพกลุ่มนี้ออกไป
ทางทำเนียบขาวยังมีแผนจะขยายเวลาโครงการประกันสุขภาพให้เด็กๆในครอบครัวรายได้น้อยต่อไปอีกเพียง 6 ปี แต่ทางเดโมแครตต้องการให้ขยายเวลาเป็นการถาวร นอกจากนี้ ทางประธานาธิบดีทรัมป์ยังยืนยันที่จะใช้งบประมาณกับการสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโกอีก.