จีนถูกกีดกันการค้าจากหลายชาติ
กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของจีนที่มีชื่อว่า China Investment Corporation (CIC) มีโอกาสในการลงทุนมากขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก แต่ขณะนี้กลับต้องเผชิญกับความยุ่งยากและความท้าทายมากยิ่งขึ้นจากการกีดกันทางการค้าจากหลายประเทศ ตู้กวงเจา รองประธานกรรมการและประธานของ CIC กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อ CNBC ในช่วงระหว่างพักของการประชุม Asian Finncial Forum
“เนื่องจาก CIC และจีนมีการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น เราจึงมองเห็นการกีดกันทางการค้าเพิ่มมากขึ้นในหลายประเทศและภูมิภาค ที่เห็นได้ชัดคือสหรัฐฯและยุโรป พวกเขามีความเคลื่อนไหวในการกีดกันทางการค้าที่ชัดเจน โดยตั้งเป้ามาที่จีนโดยเฉพาะ” เขากล่าวกับสื่อเป็นภาษาจีน
ความเห็นนี้สะท้อนคำเตือนจากทางการจีน หลังจากหน่วยงานที่กำกับดูแลของสหรัฐฯ ห้ามไม่ให้ Ant Financial บริษัทในเครือของอาลีบาบาเข้าซื้อกิจการ MoneyGram ซึ่งเป็นบริษัทโอนเงินของสหรัฐฯ โดยคณะกรรมการการลงทุนต่างประเทศในสหรัฐฯ ชี้แจงในประเด็นความมั่นคงของชาติว่าเป็นเหตุผลสำคัญที่ต้องตัดสินใจระงับดีลการซื้อขายครั้งนี้
นโยบายการกีดกันทางการค้ากับการลงทุนของจีนในต่างประเทศถูกนำมาใช้มากขึ้นในปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของแนวนโยบายการบริหารประเทศ ‘อเมริกาต้องมาก่อน’ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยสหรัฐฯเริ่มมีการสอบสวนกรณีการใช้นโยบายตอบโต้การทุ่มตลาดกับบริษัทผู้ผลิตอะลูมิเนียมของจีนในปีที่แล้ว
และถึงแม้บรรดาผู้นำจีนได้รับการสนับสนุนเพื่อการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจในระดับโลก แต่สหรัฐฯมีกฎเพื่อจำกัดการลงทุนต่างประเทศในจีน และมักจะกล่าวหาบริษัทซึ่งไม่ใช่ของนักธุรกิจจีนที่พยายามจะเข้าตีตลาดในประเทศ
โดยบางกระบวนการอาจอยู่ห่างไกลจากความเป็นอิสระของอุตสาหกรรมการเงินในจีนเอง ซึ่งรวมถึงแผนที่จีนจะอนุญาตให้มีการถือหุ้นใหญ่ของบริษัทต่างประเทศในบริษัทร่วมลงทุนในภาคการเงิน
เขาชี้ถึงสถานการณ์ข้างหน้าว่า กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของจีนแห่งนี้มีแผนที่จะรับมือกับการกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในอนาคต
“ผมคิดว่า ขณะที่เราพยายามที่จะคว้าโอกาสนอกประเทศ เราต้องมีนวัตกรรมในวิธีที่เราจะลงทุน อย่างเช่น เราต้องมีความร่วมมือมากขึ้นกับหุ้นส่วนต่างประเทศ หุ้นส่วนในประเทศ เพื่อช่วยลดการกีดกันทางการค้าที่มีกับการลงทุนของจีน” ตู้กวงเจากล่าว.