จีนเกินดุลการค้าสหรัฐฯมากขึ้น
มูลค่าการเกินดุลการค้าของจีนที่มีกับสหรัฐฯ ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีกในปี 2560 ขณะที่ปริมาณการค้าต่างประเทศยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว อ้างอิงจากข้อมูลของกรมศุลกากรเมื่อวันที่ 12 ม.ค.
โดยมูลค่าที่จีนเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปี 2559 มีมูลค่ารวม 1.87 ล้านล้านหยวน หรือราว 9.38 ล้านล้านบาท อ้างอิงจากนายหวงซงปิง โฆษกของกรมศุลกากร
ปริมาณการค้าที่จีนทำกับสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 15.2% ในปี 2560 เป็น 3.95 ล้านล้านหยวน หรือราว 19.83 ล้านล้านบาท คิดเป็น 14.2% ของการค้าทั้งหมด ยอดส่งออกของจีนไปสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 14.5% ขณะที่การนำเข้าจากสหรัฐฯ พุ่งทะยานเพิ่มขึ้นเป็น 17.3%
ในปี 2560 สหรัฐฯเป็นประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของจีน และจีนหวังที่จะมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้ากับสหรัฐฯให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นเพื่อให้มีผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองประเทศ โฆษกหวงกล่าว
โดยเขายังระบุว่า การกีดกันทางการค้าทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นจากความถี่ที่เพิ่มขึ้นของกระบวนการตรวจสอบทางการค้ากับสินค้าของจีน ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในความไม่แน่นอนที่จะต้องประสบในระบบการค้าระหว่างประเทศในปี 2561
ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 11 ม.ค.นายเกาเฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวว่า ความไม่สมดุลทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ส่วนใหญ่แล้วเป็นผลมาจากโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน ความสามารถในการแข่งขันทางอุตสาหกรรม และการแบ่งงานกันทำระหว่างประเทศ และจีนไม่เคยมุ่งหวังถึงการเกินดุลการค้าเนื่องจากถูกกำหนดโดยตลาด
เพื่อเป็นการขานรับกับการตรวจสอบในมาตรา 301 ของสหรัฐฯ ที่มีกับทรัพย์สินทางปัญญาและการถ่ายทอดเทคโนโลยีของจีนเมื่อปลายปี 2560 นายเการะบุว่า การตรวจสอบการค้าอยู่บนพื้นฐานกฎหมายและการกำกับดูแลของจีนเอง และจะมีการประนีประนอมกับกรอบการค้าระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ จีนจะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของธุรกิจของจีน หากสหรัฐฯจะมีการเข้มงวดกับการกีดกันทางการค้าเพียงฝ่ายเดียว เขากล่าว
โดยข้อมูลของกรมศุลกากรชี้ให้เห็นว่า การเกินดุลการค้าโดยรวมของจีนหดตัวลง 14.2% ในปี 2560 เป็น 2.87 ล้านล้านหยวน (14.41 ล้านล้านบาท) การส่งออกของจีนเพิ่มขึ้น 10.8% เป็น 15.33 ล้านล้านหยวน (76.95 ล้านล้านบาท) ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 18.7% มาอยู่ที่ 12.46 ล้านล้านหยวน ( 62.55 ล้านล้านบาท) ในปี 2560.