ปักกิ่งลดมลพิษได้มากสุดในจีน
มีรายงานว่ากรุงปักกิ่งและภูมิภาคโดยรอบมีการปรับปรุงเรื่องการลดมลพิษในอากาศได้มากที่สุดเมื่อปี 2560 ขณะที่เมืองอื่นในประเทศยังไม่เห็นผลมากนักเนื่องจากกิจกรรมทางอุตสาหกรรมปรับเปลี่ยนไม่เหมือนกับในเมืองหลวง อ้างอิงจากรายงานของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกรีนพีซ
กฎระเบียบที่เข้มงวดในการใช้ถ่านหินและกิจกรรมในอุตสาหกรรมก่อให้เกิดการปรับปรุงอย่างเห็นได้ชัดด้านคุณภาพของอากาศในกรุงปักกิ่ง และพื้นที่ทางตอนเหนือของจีน และสภาพอากาศก็เป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญด้วย
อย่างไรก็ตาม หากประเมินในภาพรวม จีนสามารถลดระดับมลพิษในอากาศได้เพียง 4.5% ในปีที่แล้ว อ้างอิงจากมาตรวัดที่ใช้บ่อยที่สุด โดยตัวเลขลดลงมาน้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2556 เนื่องจากอุตสาหกรรมมีการใช้ถ่านหิน ปูนซีเมน์และการผลิตเหล็กมากขึ้น องค์กรกรีนพีซระบุในรายงานมลพิษในอากาศของจีนที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 11 ม.ค.
จากผลการวิเคราะห์ของรอยเตอร์ อ้างอิงจากค่าที่อ่านได้จากทางการจีน โดยวัดจากการอ่านค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศที่เรียกว่า PM2.5 ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างกรุงปักกิ่งและ 27 เมืองโดยรอบที่อยู่ในแผนการลดมลพิษ และเมืองที่อยู่นอกโซนนี้
โดยผลชี้ว่า ขณะที่นโยบายของภาครัฐที่จะลดมลพิษในอากาศที่สร้างความเสียหายให้เมืองส่วนใหญ่ของจีน แต่ผลการปรับปรุงกลับออกมาไม่เท่ากัน และจีนยังคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะทำได้สำเร็จตามเป้า
ทั้งนี้ กรีนพีซระบุว่า ระดับมลพิษในอากาศของกรุงปักกิ่งลดลง 53.8% ในไตรมาส 4 ของปี 2560 เมื่อเทียบกับปี 2559 ขณะที่ค่า PM2.5 ในมณฑลเฮยหลงเจียง อันฮุย และเจียงซูกลับเพิ่มขึ้น
“แผนลดมลพิษในอากาศของจีนทำให้มีการลดระดับมลพิษและปัจจัยที่เป็นความเสี่ยงต่อสุขภาพในวงกว้าง แต่นโยบายถ่านหินและอุตสาหกรรมหนักฉุดรั้งให้กระบวนการไม่ก้าวหน้า” หวงเหว่ย จากกลุ่มกรีนพีซที่รณรงค์เรื่องสภาพอากาศและพลังงานในเอเชียตะวันออกให้ความเห็น
เศรษฐกิจของจีนเติบโตสูงกว่าที่คาดการณ์ในปีที่แล้ว นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากให้เครดิตกับการเฟื่องฟูของภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง คาดการณ์ว่า ผลผลิตเหล็กของจีนสูงเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 832 ล้านตันในปี 2560 ที่ผ่านมา
กรีนพีซระบุว่า ระดับค่า PM2.5 ลดลง 40% เมื่อเทียบกับปีก่อนใน 28 เมืองในช่วงพีคจากความต้องการในการทำความร้อนของปีคือกลางเดือนต.ค.ถึงกลางเดือนมี.ค. และลดลงเพียง 23% ในเมืองอื่นๆ.