ซิดนีย์ร้อนสุดในรอบ 79 ปี
นครซิดนีย์ในออสเตรเลียประสบกับสภาพอากาศร้อนจัด เนื่องจากมีอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 47.3 องศาเซลเซียส ถือเป็นอากาศที่ร้อนที่สุดในรอบ 79 ปี
ผู้อยู่อาศัยในย่านเพนริธ ทางตะวันตกของซิดนีย์ต้องเจอกับอากาศที่ร้อนอบอ้าว เนื่องจากในเมืองอุณหภูมิพุ่งขึ้นสูงจนร้อนระอุอย่างรุนแรงในวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา
มีการออกประกาศเตือนภัยจากเหตุไฟไหม้ในพื้นที่ทั่วซิดนีย์ใหญ่ และห้ามไม่ให้มีการจุดไฟทั่วทั้งเมือง
อุณหภูมิของวันที่ 6 ม.ค.ต่ำกว่าอากาศที่เคยร้อนเป็นประวัติการณ์ในพื้นที่นี้เมื่อปี 2482 ที่อุณหภูมิเคยพุ่งไปสูงถึง 47.8 องศาเซลเซียส โดยกรุมอุตุนิยมวิทยายืนยันถึงตัวเลขของอุณหภูมิที่สูงจัดในย่านเพนริธ
ที่สนามคริกเก็ตของเมืองซิดนีย์ ผู้เล่นจากอังกฤษเล่นได้ยากขึ้นในวันที่มีอากาศร้อนจัดที่สุดเป็นประวัติการณ์สำหรับการแข่งขันแมทช์ทดสอบกับออสเตรเลีย
นอกจากนี้ นักกีฬาเทนนิสที่ลงแข่งขันที่จัดขึ้นในซิดนีย์ ถูกบังคับให้ออกจากสนามแข่งในเวลา 10.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมาโดยคณะผู้จัดงาน หลังจากอุณหภูมิในสนามพุ่งสูงถึง 40 องศาเซลเซียส
โดย Kristina Mladenovic นักกีฬาจากฝรั่งเศสกล่าวขอโทษหลังจากเธอขอถอนตัวออกจากการแข่งขันกลางทางเพราะอากาศร้อนจัดในแมตช์ที่แข่งกับ Ellen Perez นักกีฬาจากออสเตรเลีย
“ 43 องศา แต่อาจจะสูงถึง 50 องศาตอนที่เริ่มแข่งก็ได้ ดิฉันต้องขอโทษแฟนๆด้วย ดิฉันคิดว่านี่เป็นครั้งแรกในอาชีพการแข่งขันของดิฉันที่ขอถอนตัวจากการแข่ง ”
Jamie Pandarem นักหนังสือพิมพ์ทวีตบนทวิตเตอร์ว่าความร้อนจากอากาศที่ร้อนจัด ทำให้บรรดาตากล้องทำหน้าที่ของเขาได้ไม่เต็มที่
มีการประกาศคำสั่งห้ามจุดไฟในพื้นที่ซิดนีย์ใหญ่เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดไฟป่า ซึ่งเป็นเหตุการณ์ปกติที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนของออสเตรเลีย
ทั้งนี้ เกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นหลายแห่งเมื่อวันที่ 7 ม.ค. และมีทรัพย์สินถูกทำลายเสียหายในวิกตอเรีย และออสเตรเลียใต้
เมื่อเดือนก.ย.ปี 2560 มีการออกประกาศเตือนถึงชาวออสเตรเลียให้เตรียมตัวให้พร้อมในการรับมือกับไฟป่าที่มีอันตรายร้ายแรง หลังจากเป็นหนึ่งในฤดูหนาวที่แห้งแล้งที่สุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ มีการทำลายสถิติด้านอุณหภูมิมากกว่า 200 ครั้งทั่วออสเตรเลีย ในช่วงเวลาเดือนธ.ค.ปี 2559 – ก.พ. 2560 จากการเกิดคลื่นความร้อน ไฟป่า และน้ำท่วมในฤดูร้อนของประเทศ
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า อุณหภูมิบนพื้นดินและในทะเลได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างสุดขั้ว.