ฉีดวัคซีนไม่ครบโดส ห้ามเข้าพื้นที่สาธารณะ
“เคนยา” คลอดมาตรการโหด ห้ามผู้คนที่ไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 โดส เข้าพื้นที่สาธารณะทุกประเภทตั้งแต่ 21 ธ.ค.บีบผู้คนมากกว่า 20 ล้าน ต้องดิ้นรนเข้ารับวัคซีนภายใน 1 เดือน แม้เรื่องนี้แทบเป็นไปไม่ได้
กระทรวงสาธารณสุขเคนยา ทวีปอัฟริกา ประกาศตั้งแต่ 21 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป ห้ามผู้คนที่ไม่รับฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 โดส เข้าพื้นที่สาธารณะทุกประเภท ไล่ตั้งแต่ระบบขนส่งมวลชน ร้านอาหาร ผับบาร์ โรงแรม สถานบันเทิงทุกประเภท โรงพยาบาล เรือนจำ สถานที่ราชการทุกแห่ง และสถานศึกษา หวังหยุดยั้งสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ในช่วงสิ้นปีและต้อนรับปีใหม่
มาตรการดังกล่าว หมายความว่า ประชาชนมากกว่า 20 ล้านคน จากประชากรทั้งประเทศมากกว่า 55 ล้านคน ต้องรีบแสวงหาสถานที่ฉีดวัคซีนให้ได้ครบ 2 โดสภายในเวลา 1 เดือน เพื่อไม่ให้ตัวเองอยู่ในข่ายถูกห้ามเข้าสถานที่สาธารณะ ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดเมื่อ 22 พ.ย. ชาวเคนยารับวัคซีนครบ 2 โดส แล้วเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 6.4 ล้านคน ทั้งประเทศมีประชากรวัยเด็ก ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่การรับวัคซีน 2 โดส ต้องใช้ระเวลาทิ้งช่วงห่างกันอย่างน้อย 6 สัปดาห์ ทำให้ผู้คนจำนวนมากจะต้องอยู่ในข่ายถูกห้ามออกเดินทางไปไหนมาไหนโดยปริยาย
รัฐบาลเคนยาพยายามเร่งเดินหน้าฉีดวัคซีนประชาชนให้ได้ครอบคลุมมากที่สุดในช่วงเวลานี้ โดยเชื่อมั่นมีวัคซีนเพียงพอ ซึ่งวัคซีนส่วนใหญ่คือ AZ – แอสตรา เซเนก้า แต่จะให้วัคซีนทางเลือกคือ ไฟเซอร์ เพื่อลดปัญหาความลังเลใจของผู้คนต่อความเชื่อมั่นยี่ห้อวัคซีน
ขณะเดียวกัน รัฐบาลพยายามกระจายสถานที่ฉีดวัคซีนให้มากที่สุด ทั้งตามป้ายรถประจำทาง ตามห้างสรรพสินค้าและสถานที่ง่ายต่อการเข้าถึงวัคซีน อย่างไรก็ตาม พื้นที่ชนบทห่างไกลประชาชนยังยากเข้าถึงการรับวัคซีนอยู่ดี ทำให้หลังจากวันที่ 21 ธ.ค.ต้องมีผู้คนถูกห้ามเดินทางไปไหนมาไหนจำนวนมากและการบังคับใช้กฏระเบียบนี้จะเป็นไปอย่างเข้มงวดมากที่สุด
ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ทั่วประเทศเคนยา พบผู้ติดเชื้อประมาณ 2.5 แสนราย ผู้เสียชีวิต ประมาณ 5.3 พันราย อัตราการติดเชื้อเฉลี่ยลดลงตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา อัตราผู้ติดเชื้อแล้วป่วยรุนแรงลดลงจาก 2.6 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 0.8 เปอร์เซ็นต์.