ไฟไหม้ในนิวยอร์ก คร่า 12 ราย

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.เจ้าหน้าที่ในนครนิวยอร์กทำการสืบสวนหาสาเหตุตั้งแต่เช้าถึงเหตุเพลิงไหม้ตึกอพาร์ตเมนต์ในเขตบรองซ์ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 12 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 ราย นับเป็นเหตุเพลิงไหม้ครั้งร้ายแรงที่สุดของนิวยอร์กในรอบ 25 ปี
โดยเพลิงเริ่มโหมขึ้นมาก่อน 19.00 น.เล็กน้อยตามเวลาท้องถิ่น บนชั้น 1 ของอาคารอิฐและเริ่มลามขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว Daniel Nigro คณะกรรมการดับเพลิงของเมืองกล่าวในการแถลงข่าวกับนายกเทศมนตรี Bill de Blasio โดยกำลังมีการสืบสวนหาสาเหตุของเพลิงไหม้อยู่
“ เราอยู่ที่นี่ ที่ซึ่งมีโศกนาฏกรรมที่ไม่อาจบรรยายได้ ในช่วงกลางของเทศกาลวันหยุดซึ่งเป็นเวลาที่ครอบครัวมารวมกัน คืนนี้ ที่บรองซ์ มีหลายครอบครัวที่ต้องถูกพรากจากกัน ”
มีเด็กวัย 1 ปี 2 ปี 7 ปี และเด็กชายที่ไม่อาจระบุอัตลักษณ์ได้ต้องเสียชีวิตในเพลิงไหม้พร้อมกับชาย 4 รายและหญิง 4 ราย อ้างอิงจากรายงานข่าวในท้องถิ่น
นายกเทศมนตรีแถลงว่า มีผู้บาดเจ็บ 4 รายที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่มีอาการวิกฤต และอยู่ในสภาวะต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อให้มีขีวิตรอด และทางการรายงานว่า นักดับเพลิงสามารถช่วยชีวิตผู้คนออกมาจากอาคารได้ 12 ราย
“ ผู้คนเสียชีวิตในหลายชั้นของอพาร์ตเมนต์ โดยมีอายุระหว่าง 1 ปีจนถึงคนในวัยมากกว่า 50 ปี” Nigro กล่าวกับผู้สื่อข่าว “ ในส่วนที่แน่ใจว่าไม่น่าเกิดโศกนาฏกรรม เรากลับต้องช็อกกับจำนวนผู้สูญเสีย”
โดยพบร่างผู้เสียชีวิต 2 รายในอ่างอาบน้ำ อ้างอิงจากรายงานข่าวของสถานีข่าวเคเบิล NY1
“ ผู้คนกรีดร้อง และทำให้เรารู้ว่ามีปัญหาอยู่ ” Kimberly Wilkins พยานผู้ประสบเหตุกล่าวกับ WCBS-TV
“ คนพากันตะโกนว่า ไฟไหม้ ช่วยด้วย ไฟไหม้ ช่วยด้วย ”
เหตุเพลิงไหม้เกิดในย่าน Belmont ของเขตบรองซ์ ในย่านที่เรียกกันว่า Little Italy ซึ่งอยู่ติดกันกับสวนสัตว์บรองซ์ และมหาวิทยาลัย Fordham
นิวยอร์กกำลังมีอากาศหนาว อุณหภูมิลดต่ำลงและมีลมพัดแรง ทำให้ไฟลามเข้าไปในตึก อ้างอิงจากการรายงานของสื่อ
มีนักดับเพลิงมากกว่า 160 นายที่สรรพกำลังกันเข้าปฏิบัติหน้าที่เพื่อควบคุมเพลิงให้ได้ สำนักดับเพลิงของนครนิวยอร์กรายงาน
มีภาพเหตุการณ์ที่โพสต์บนทวิตเตอร์ที่แสดงให้เห็นภาพรถดับเพลิงพร้อมบันได เพื่อปีนขึ้นไปที่ชั้นสูงขึ้นไปที่กำลังถูกไฟลุกท่วม และมีภาพเจ้าหน้าที่ปีนออกมาจากชั้น 2 และชั้น 3
ในปี 2559 จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ในนิวยอร์กลดลงเหลือ 48 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยที่สุดในรอบ 100 ปี โดยในตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลของปี 2560.