บิทคอยน์ฟื้นตัวหลังดิ่งร่วงมากสุด
บิทคอยน์ฟื้นตัวกลับขึ้นมา 15% เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.โดยมูลค่าคืนกลับมาประมาณครึ่งหนึ่งจากที่เคยดิ่งร่วงลงไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นราคาที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา เนื่องจากนักลงทุนที่พลาดในช่วงขาขึ้นก่อนหน้านี้พากันซื้อสกุลเงินดิจิทัลที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดอย่างบิทคอยน์เพิ่มขึ้น
ขณะที่นักลงทุนบิทคอยน์และนักวิเคราะห์เชื่อว่าการอ่อนค่าลงในสัปดาห์ที่แล้วเป็นการปรับสภาพตามธรรมชาติหลังจากพุ่งทะยานไม่หยุดในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ และมีคำเตือนถึงความเสี่ยงในการลงทุนบิทคอยน์จากรัฐบาลและธนาคารกลางหลายประเทศออกมามากขึ้น
จากที่เคยร่วงลงไปเหลือ 11,159.93 ดอลลาร์สหรัฐฯ (368,166 บาท) ต่อหน่วย เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. บิทคอยน์ก็ฟื้นกลับขึ้นมาถึง 15% อยู่ที่ 16,030 ดอลลาร์สหรัฐฯ (528,829 บาท) ในการซื้อขายที่ตลาด Bitstamp ในกรุงลักเซมเบิร์ก ประเทศเบลเยียม
“ ราคาล่าสุดแสดงให้เห็นว่า บิทคอยน์ยังเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงและมีความผันผวนสูง ” Kristina Hooper นักวางกลยุทธ์ตลาดทั่วโลกของ Invesco ในนิวยอร์กกล่าว
ทั้งนี้ สกุลเงินดิจิทัลพุ่งขึ้นมาประมาณ 20 เท่าตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยขยายตัวจากเดิมคือน้อยกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ มาอยู่ที่ 19,666 ดอลลาร์สหรัฐฯ (648,781 บาท) ต่อหน่วย เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. จากการซื้อขายบน Bitstamp และสูงกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (659,800 บาท) ต่อหน่วยในการซื้อขายที่อื่น
“ ไม่มีราคาที่เหมาะสมที่สะท้อนมูลค่าที่ถูกต้องในปัจจุบัน ” Andrei Popescu ผู้ก่อตั้ง COSS ที่มีฐานในสิงคโปร์ ซึ่งให้คำอธิบายตัวเองว่า เป็นแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมฟีเจอร์ทั้งหมดของเศรษฐกิจดิจิทัลของสกุลเงินดิจิทัล
“ การทำกำไรเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ขณะที่การซื้อไว้เป็นเวลานานเพื่อเก็งกำไรก็ถูกเหมือนกัน คุณไม่ต้องถูกมากนักในตลาดนี้ แค่ผิดน้อยกว่าคนอื่นก็พอ ” Popescu ให้ความเห็น
“ เราคิดว่า บิทคอยน์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่สามารถเติมเต็มฟังก์ชันพื้นฐานได้เท่าที่ควร เราจึงคิดว่ามีแนวโน้มว่าจะเป็นฟองสบู่ ซึ่งจะอ่อนค่าหายไปในที่สุด และมีสกุลเงินดิจิทัลอื่นมาแทน ” อ้างอิงจากการวิเคราะห์ของ Citi ในผลสำรวจที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา
Shmuel Hauser ประธาน Israel Securities Authority เป็นคนล่าสุดที่ออกมาแสดงความเป็นห่วงเรื่องบิทคอยน์ โดยเขากล่าวเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ว่า เขาจะกำหนดกฎข้อบังคับเพื่อห้ามไม่ให้บริษัทที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นซื้อขายผ่านตลาดหุ้น Tel Aviv ในอิสราเอล
สัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางสิงคโปร์ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล โดยระบุว่า ได้พิจารณาแล้วว่าราคาที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของบิทคอยน์เป็นผลมาจากการเก็งกำไรของนักลงทุน และความเสี่ยงที่ราคาจะดิ่งร่วงมีสูงมาก
ทั้งนี้ ราคาของสกุลเงินดิจิทัลอื่น ซึ่งร่วงลงมาพร้อมกับบิทคอยน์ในสัปดาห์ที่แล้วก็มีการฟื้นตัวกลับขึ้นมาเช่นกัน โดย Ethereum ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 จากขนาดของตลาด มีราคาอยู่ที่ 771 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหน่วย เพิ่มขึ้นจากที่เคยต่ำสุดในวันที่ 24 ธ.ค.คือ 689 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ยังคงห่างจากที่เคยพุ่งขึ้นไปถึง 990 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหน่วยในสัปดาห์ที่แล้ว.