UN คว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประกาศมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่หลังการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่นักวิเคราะห์มองว่าจะส่งผลกระทบอย่างชัดเจนกับเศรษฐกิจที่ต้องดิ้นรนอย่างหนักของเกาหลีเหนือที่ถูกโดดเดี่ยว
โดยการคว่ำบาตรครั้งนี้จะเป็นการปิดกั้นการส่งออกน้ำมันของเกาหลีเหนือเกือบ 90% ด้วยการกำหนดปริมาณไว้ที่ 500,000 บาร์เรลต่อปี และที่เปลี่ยนแปลงในนาทีสุดท้ายในทางการทูตคือ การส่งแรงงานชาวเกาหลีเหนือที่ทำงานในต่างประเทศกลับบ้านภายใน 24 เดือน แทนที่จะเป็น 12 เดือนอย่างที่เสนอในตอนแรก
มาตรการที่เป็นฉบับร่างจากสหรัฐฯ คือการจำกัดซัพพลายน้ำมันดิบไปเกาหลีเหนือไว้ที่ 4 ล้านบาร์เรลต่อปี โดยสหรัฐฯยังเรียกร้องให้จีนจำกัดซัพพลายน้ำมันไปเกาหลีเหนือซึ่งเป็นทั้งประเทศเพื่อนบ้านและพันธมิตร
ทูตญี่ปุ่นประจำสหประชาชาติรายงานว่า มีการโหวตลงมติคว่ำบาตรด้วยคะแนนเสียงที่เป็นเอกฉันท์คือ 15 ต่อ 0 เสียง โดยญี่ปุ่นเป็นประธานของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในปีนี้
เมื่อวันที่ 29 พ.ย.เกาหลีเหนือแถลงว่า ประสบความสำเร็จในกายิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป ซึ่งมีความก้าวหน้าจนทำให้พื้นที่ของสหรัฐฯ อยู่ในระยะยิงของอาวุธนิวเคลียร์
นักการทูตสหรัฐฯ ชี้แจงชัดเจนว่า ต้องการวิธีการแก้ไขทางการทูต แต่ได้ยกระดับการคว่ำบาตรให้เข้มงวดขึ้น เพื่อกดดันประธานาธิบดีคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ
เกาหลีเหนือขู่ว่าจะทำลายเกาหลีใต้ สหรัฐฯและญี่ปุ่น และระบุว่าโครงการสะสมอาวุธเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อรับมือกับท่าทีที่แข็งกร้าวของสหรัฐฯ โดยในอดีต ช่วงสงครามเกาหลี สหรัฐฯ มีทหารประจำการที่ฐานทัพในเกาหลีใต้มากถึง 28,500 นาย
นักวิเคราะห์ระบุก่อนหน้าการโหวตลงมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติว่า การคว่ำบาตรรอบใหม่จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือ
“ หากการคว่ำบาตรมีผลบังคับใช้ การจำกัดน้ำมันจะส่งผลต่ออุตสาหกรรมขนส่งของเกาหลีเหนือ สำหรับชาวเกาหลีเหนือในการผลิตไฟฟ้าที่บ้าน หรือกิจกรรมการผลิต และส่งผลต่อรัฐวิสาหกิจเช่นกัน” ปีเตอร์ วอร์ด นักเขียนคอลัมน์ประจำ NK News ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ติดตามเกาหลีเหนือให้ความเห็น
โดยจะมีการบังคับให้ส่งแรงงานเกาหลีเหนือกลับประเทศอีกด้วย ซึ่งจะเป็นการตัดท่อน้ำเลี้ยงของสกุลเงินต่างประเทศและการลงทุน ไม่เฉพาะแต่ส่วนภาครัฐเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจเกิดใหม่ของเกาหลีเหนือด้วย
“ หากมีการคว่ำบาตร จะส่งผลร้ายแรงต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือ”
Michael Kirby ซึ่งยกประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือของ UN ขึ้นมาระบุว่า การจำกัดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงของเกาหลีเหนือเป็นมาตรการที่ร้ายแรง
“ การห้ามการนำเข้าน้ำมัน ซัพพลายปิโตรเลียม จะส่งผลกระทบครั้งใหญ่กับประชาชนธรรมดาในเกาหลีเหนือ” เขากล่าว
ทั้งนี้ จีนสนับสนุนการคว่ำบาตรของสหประชาชาติก็จริง แต่ต่อต้านการเรียกร้องของสหรัฐฯที่จะให้จีนหยุดส่งซัพพลายให้เกาหลีเหนือ.