สหรัฐฯโทษโสมแดงเอี่ยวโจมตีไซเบอร์
ทางการสหรัฐฯระบุว่า เกาหลีเหนือมีส่วนโดยตรงกับการโจมตีทางไซเบอร์ด้วยมัลแวร์ WannaCry ที่ส่งผลกระทบกับโรงพยาบาล ธุรกิจและธนาคารทั่วโลกในช่วงปีนี้
มีการประเมินว่า การโจมตีทางไซเบอร์ครั้งล่าสุดกระทบกับคอมพิวเตอร์มากกว่า 300,000 เครื่องใน 150 ประเทศ และก่อให้เกิดความเสียหายครั้งใหญ่เป็นมูลค่านับพันล้านดอลลาร์
โดย Thomas Bossert หนึ่งในคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ได้พูดถึงประเด็นนี้ในหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล นับเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯกล่าวโทษเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการในประเด็นการแพร่ไวรัสคอมพิวเตอร์
Bossert ซึ่งเป็นที่ปรึกษาประธานาธิบดีในกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิระบุว่า การกล่าวหาครั้งนี้มีหลักฐานยืนยัน และกล่าวเสริมว่าสหราชอาณาจักรและบริษัทไมโครซอฟต์เองก็กล่าวโทษรัฐบาลเกาหลีเหนือเช่นกันว่ามีส่วนในการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้
เมื่อเดือนพ.ค.ปีนี้ คอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ถูกโจมตีทางไซเบอร์ทำให้ถูกล็อคคอนเทนต์ ผู้ใช้งานถูกขู่ให้จ่ายค่าไถ่สำหรับข้อมูลที่ถูกแฮ็ก ตำรวจสากลของสหภาพยุโรประบุว่า ขนาดของการโจมตีในรูปแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อน
โดยเนื้อหาของบทความในหนังสือพิมพ์ Bossert กล่าวว่า เกาหลีเหนือต้องมีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้และสหรัฐฯจะใช้กลุยุทธ์ในการกดดันระดับสูงสุดเพื่อขัดขวางไม่ให้เกาหลีเหนือโจมตีทางไซเบอร์ได้
ทั้งนี้ เขาไม่ได้เจาะจงว่าจะทำอะไรอย่างเป็นรูปธรรม แต่หากมีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น ทางรัฐบาลสหรัฐฯมีแผนจะเข้าร่วมอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบ
“เกาหลีเหนือมีพฤติกรรมที่แย่ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีการตรวจสอบมานานกว่าทศวรรษ และพฤติกรรมที่แย่ๆนับวันจะทวีความเลวร้ายมากยิ่งขึ้น WannaCry เป็นประเด็นที่ขาดการพิจารณาไตร่ตรอง เนื่องจากเราต้องการจะทำให้อินเทอร์เน็ตมีความปลอดภัยมากขึ้น เราจึงมีหน้าที่ต้องค้นหาว่าใครเป็นผู้ที่ทำร้าย หรือคุกคามข่มขู่เรา พวกเขาลงมือทำเอง หรือ กระทำในนามขององค์กรอาชญากรรม หรือรัฐบาลของประเทศ การกระทำเช่นนี้เป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงเกินกว่าที่เราจะเพิกเฉยได้”
คาดการณ์ว่าทำเนียบขาวจะออกโรงกล่าวโทษเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการในวันที่ 19 ธ.ค.
ในสหราชอาณาจักร บริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการโจมตีทางไซเบอร์ โดยโรงพยาบาล 48 แห่งถูกบีบให้เลื่อนนัดคนไข้ หรือแม้แต่การผ่าตัดออกไป
โดยความวุ่นวายเกิดขึ้นทั่วโลก ในรัสเซียเองก็มีรายงานว่าได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการโจมตีทางไซเบอร์เช่นกัน และย้อนหลังไปในปี 2557 สหรัฐฯก็เคยอ้างว่าเกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์กับบริษัทโซนี พิกเจอร์ หลังจากฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับแผนการสังหารประธานาธิบดีคิมจองอึนแห่งเกาหลีเหนือ
ที่ผ่านมา เกาหลีเหนืออกมาตอบโต้การกล่าวหาจากอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา แต่ยังไม่มีการขานรับกับการกล่าวหาจากทำเนียบขาวเกี่ยวกับมัลแวร์ WannaCry แต่อย่างใด.