อูเบอร์ใกล้ขายหุ้นให้ซอฟต์แบงก์
บริษัทอูเบอร์อยู่ในกระบวนการเจรจาที่นำไปสู่การเข้ามาลงทุนก้อนใหญ่มหึมาจากซอฟต์แบงก์ ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการลงทุนในธุรกิจที่มีอนาคตจากญี่ปุ่นและกลุ่ม Dragoneer ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจในซานฟรานซิสโก
โดยขนาดการลงทุนยังไม่เป็นที่เปิดเผย แต่ในรายงานอ้างว่า อาจมีมูลค่าสูงเกือบ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 332,800 ล้านบาทเลยทีเดียว
อูเบอร์ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการรถร่วมโดยสารกล่าวว่า เงินทุนจะช่วยเป็นเชื้อเพลิงหนุนการขยายตัวของอูเบอร์และการลงทุนในด้านเทคโนโลยี แต่บริษัทอาจปรับเปลี่ยนโครงสร้างนิติบุคคลและมีการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 2562 หากดีลรุดหน้า
“ เรากำลังเดินหน้าเข้าสู่การทำข้อตกลงกับนักลงทุนรายใหญ่คือซอฟต์แบงก์และ Dragoneer กับการลงทุนที่เปี่ยมศักยภาพ ” อูเบอร์ระบุ
“ เราเชื่อว่า ข้อตกลงนี้จะเป็นเสียงที่แข็งแกร่งของความเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาวของอูเบอร์ ”
หากดีลสำเร็จลุล่วง บริษัทมีแผนจะใช้เงินทุนในการขยายขนาดกิจการ เนื่องจากต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการสนับสนุนการลงทุนในเทคโนโลยี โดยอูเบอร์กล่าวว่า จะสร้างความแข็งแกร่งในการกำกับดูแลกิจการ หรือบรรษัทภิบาล
นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยนำเสถียรภาพมาสู่อูเบอร์ ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก หลังจากต้องประสบกับข่าวฉาวมาตลอดทั้งปี รวมถึงการถูกบอร์ดบริหารกดดันให้ลาออกของนายทราวิส คาลานิก อดีตซีอีโอและผู้ก่อตั้งเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
โดยทางซอฟต์แบงก์ ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่กิจการโทรคมนาคมและเทคโนโลยีของญี่ปุ่น ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกับทางสำนักข่าวบีบีซีเกี่ยวกับการลงทุนที่มีศักยภาพนี้ อย่างไรก็ตาม นายมาซาโยชิ ซัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซอฟต์แบงก์กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เรื่องที่จะลงทุนในอูเบอร์หรือไม่นั้น ยังไม่ได้มีการตัดสินใจ
เขากล่าวว่า ดีลการเจรจานี้เปิดกว้างทั้งในแง่ราคาและเงื่อนไข เนื่องจากเงินลงทุนส่วนใหญ่ของซอฟต์แบงก์จะถูกใช้เพื่อซื้อหุ้นจากนักลงทุนปัจจุบัน การซื้อหุ้นที่มีอยู่ จะทำให้ซอฟต์แบงก์ได้หุ้น 14% ในอูเบอร์ ขณะที่จะมีการใช้เงินจำนวน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 33,280 ล้านบาทเพื่อซื้อหุ้นใหม่
เขายังกล่าวด้วยว่า ขณะที่อูเบอร์กำลังดิ้นรนกับประเด็นการจัดการ แต่เขาเชื่อว่า อูเบอร์ยังคงเป็นบริษัทที่ดี
โดยแหล่งข่าวแจ้งกับทางสำนักข่าวบีบีซีว่า อาจใช้เวลาประมาณ 1 เดือนสำหรับการบรรลุข้อตกลงทางธุรกิจครั้งนี้
หากดีลครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์ จะเป็นอีกหนึ่งข้อตกลงการลงทุนในต่างประเทศล่าสุดของซอฟต์แบงก์ที่มีมาอย่างต่อเนื่องคือ
- ซื้อหุ้นมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใน WeWork ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพในนิวยอร์กเมื่อเดือนส.ค.
- ซื้อ BostonDynamics ซึ่งเป็นผู้ผลิตหุ่นยนต์จากอัลฟาเบท ( บริษัทแม่ของกูเกิล) ด้วยจำนวนเงินที่ไม่เปิดเผย
- ซื้อบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติอังกฤษ ARM Holdings ด้วยมูลค่า 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2559
- ซื้อหุ้นเพื่อเข้าควบคุมบริษัท Sprint ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมในปี 2556
นายซัน เป็นที่รู้จักจากการที่มีสายตาของนักลงทุนที่เปี่ยมศักยภาพในอุตสาหกรรมและเทรนด์ความนิยม เขาเป็นนักลงทุนรายแรกๆในอาลีบาบา และถือครองหุ้นเกือบ 30% ของอาลีบาบาในปัจจุบัน.
