สื่อจีนจับตาความสัมพันธ์จีน/ทรัมป์
จีนและสหรัฐฯ มีประโยชน์ส่วนรวมร่วมกัน แต่ต้องรับมือกับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ดี สื่อของรัฐบาลจีนกล่าวเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ก่อนหน้าการเยือนกรุงปักกิ่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ
คาดการณ์กันว่า ประเด็นสำคัญของการเยือนเอเชียในครั้งนี้ของผู้นำสหรัฐฯคือเกาหลีเหนือและการค้า โดยเขามีแนวโน้มจะผลักดันให้ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนมีความเคลื่อนไหวมากขึ้นกับกรณีการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และพูดคุยเรื่องที่จีนได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯเป็นจำนวนมาก
สื่อพีเพิล เดลี ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคคคอมมิวนิสต์จีนรายงานว่า จีนแข็งแกร่งขึ้น จะไม่มีแนวคิดที่ล้าสมัยแบบเดิมๆ ในการจัดการกับความสัมพันธ์ แต่จะทำงานร่วมกับสหรัฐฯเพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างกันกันและมีความสัมพันธ์ที่เอื้อผลประโยชน์ซึ่งกันและกันโดยปราศจากความขัดแย้ง
“เพื่อไม่ให้มีอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี และปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในคาบสมุทรเกาหลี จีนและสหรัฐฯ มีประโชน์ส่วนรวมร่วมกัน” สื่อพีเพิล เดลีรายงาน
“ทั้งสองฝ่ายควรเคารพผลประโยชน์ของกันและกัน ดำรงการติดต่อสื่อสารและการปรึกษาหารือที่ใกล้ชิด และพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะส่งเสริมให้มีการแก้ไขปัญหาในประเด็นอาวุธนิวเคลียร์ของคาบสมุทรเกาหลี”
ในวันที่ 8 พ.ย. ทรัมป์มุ่งหน้าเดินทางไปจีน หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในการเยือนญี่ปุ่น และเกาหลีใต้เรียบร้อยแล้วในการเยือนเอเชียแบบมาราธอนครั้งนี้
ความพยายามของเขาที่จะไปเยือนพรมแดนที่แยกเกาหลีทั้งสองออกจากกันต้องถูกยกเลิกเมื่อวันที่ 8 พ.ย.หลังจากสภาพอากาศที่มีหมอกหนาทึบ จนเฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถขึ้นลงได้ตามปกติ
ขณะที่บทบรรณาธิการในสื่อไชน่า เดลี ซึ่งรายงานข่าวการยกเลิกการไปเยือนพรมแดนเกาหลีของทรัมป์ระบุว่า ทรัมป์ไม่ได้เดินทางไปที่เขตปลอดทหาร (DMZ) และการที่เกาหลีเหนือไม่ได้ยิงทดสอบขีปนาวุธหรืออาวุธนิวเคลียร์ใดๆ เป็นสัญญาณที่มีหวังว่าทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะหาหนทางแก้ไขอย่างสันติกับสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้
โดยจีนสัญญาจะให้การต้อนรับผู้นำสหรัฐฯ อย่างสมเกียรติ และขณะที่ยังไม่มีการแจ้งรายละเอียดใดๆ ก็เห็นได้ชัดว่าจีนให้ความสำคัญกับการมาเยือนครั้งนี้ของเขา
ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่า ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงจะเป็นไกด์พาทรัมป์ไปเยือนพระราชวังต้องห้ามด้วยตัวเอง
“ความกระตือรือร้นของรัฐบาลจีนสะท้อนถึงทัศนคติในแง่บวกที่มีต่อโลกที่หลากหลายกับสหรัฐฯ และแนวโน้มความเป็นสากลที่เป็นจริงของการผงาดขึ้นมาของจีน” อ้างอิงจากสื่อโกลบอล ไทม์ ที่จัดพิมพ์โดยพีเพิล เดลี.