กราดยิงโบสถ์ในเท็กซัส คร่าชีวิต 26 ราย
มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 รายหลังจากชายคนหนึ่งเข้าไปกราดยิงในโบสถ์ เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยเหตุร้ายเกิดขึ้นที่โบสถ์เฟิร์สท์ แบปติสต์ ในซัทเทอร์แลนด์สปริงส์ เมืองเล็กๆในวิลสันเคาน์ตี รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา
มือปืนซึ่งเสียชีวิตหลังจากนั้น บุกเข้าไปในโบสถ์และกราดยิงในเวลา 11.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยผู้ว่าการรัฐเท็กซัส เกร็ก แอบบอตยืนยันการเสียชีวิตและกล่าวว่าเป็นเหตุกราดยิงที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐเท็กซัส
“นี่เป็นเหตุการณ์ที่จะสร้างความเจ็บปวดและเศร้าสลดใจไปอีกนาน” เขากล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 5 พ.ย.
ฟรีแมน มาร์ติน ผู้อำนวยการสำนักงานเพื่อความปลอดภัยสาธารณะของเท็กซัส ระบุว่า อายุของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายอยู่ระหว่าง 5 -72 ปี ทางการรายงานเพิ่มเติมว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างน้อย 20 ราย
ทั้งนี้ นายมาร์ตินชี้แจงว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นชายหนุ่มผิวขาว ในวัยยี่สิบต้นๆ แต่งกายชุดดำและสวมเสื้อเกราะพร้อมรบ และเขามีอาวุธปืนไรเฟิล โดยเขาเริ่มยิงจากหน้าโบสถ์ก่อนจะบุกเข้าไปเปิดฉากกราดยิงภายในโบสถ์ หลังจากนั้นก็ขับรถหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ติดตามผู้ก่อเหตุร้ายไป เขาขับรถออกนอกเส้นทางและขับรถชน ตำรวจไปพบเขาเสียชีวิตคารถ แต่ยังไม่ชัดเจนว่า เขาเสียชีวิตจากการยิงตัวเอง หรือยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่
อ้างอิงจากการรายงานของสื่อในสหรัฐฯ มือปืนชื่อ นายเดวิน พี.เคลลี วัย 26 ปี แต่ทางตำรวจยังไม่ได้ยืนยันอัตลักษณ์ของผู้ต้องสงสัย
เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายอย่างน้อย 10 ราย รวมถึงเด็ก 4 รายถุูกนำตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแพทย์ซานอันโตนิโอ อ้างอิงจากทวีตของโรงพยาบาล
โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 23 รายในโบสถ์ ขณะที่มีผู้เสียชีวิต 2 รายข้างนอก และอีกคนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
แคร์รี มาทูลา พยานผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งกล่าวกับสื่อบีบีซี ว่า “เราได้ยินเสียงปืนกึ่งอัตโนมัติ เราห่างจากโบสถ์แค่ 50 หลาเอง นี่เป็นชุมชนเล็กมากๆ ทุกคนจึงอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
ซัทเทอร์แลนด์สปริงส์เป็นชุมชนเล็กๆในชนบท มีจำนวนประชากรเพียงไม่กี่ร้อยคน ตั้งอยู่ห่างจากเมืองซานอันโตนิโอของรัฐเท็กซัสไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 50 ก.ม.
เอฟบีไอของเมืองซานอันโตนิโอกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของเอฟบีไอได้ลงพื้นที่สืบสวน แต่ยังไม่พบแรงจูงใจในการผู้ก่อเหตุร้ายของคนร้าย ภาพและวีดีโอจากที่เกิดเหตุชี้ให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการกั้นพื้นที่อาชญากรรมไว้โดยรอบ ทั้งนี้ มีเฮลิคอปเตอร์จำนวนหนึ่งที่บินมานำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล และมีรายงานที่น่าเศร้าว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดมีทั้งเด็ก สตรีมีครรภ์และผู้สูงอายุ
โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯซึ่งอยู่ในระหว่างปฏิบัติภารกิจการเยือนเอเชีย ได้ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ว่า เขาเฝ้าจับตาดูสถานการณ์จากญี่ปุ่น
เหตุกราดยิงครั้งนี้เกิดขึ้นห่างจากเหตุซุ่มยิงจากโรงแรมในงานเทศกาลดนตรีที่ลาสเวกัสเพียงหนึ่งเดือน โดยเหตุร้ายครั้งนั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 58 ราย และบาดเจ็บอีกนับร้อยราย นับเป็นเหตุกราดยิงที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของสหรัฐฯ.