ไฟป่าโหมหนักในโปรตุเกส /สเปน
เกิดเหตุไฟป่าโหมรุนแรงในพื้นที่ทางตอนกลางและตอนเหนือของโปรตุเกสตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 31 ราย อ้างอิงจากรายงานของสำนักงานป้องกันพลเรือน
โดยไฟป่าหลายสิบจุดจากทั้งหมด 145 จุดยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง โฆษกหญิงกล่าว
ไฟป่าที่เผาผลาญข้ามพรมแดนไปทางเหนือจนถึงแคว้นกาลิเชียในสเปน ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายพันนายกำลังพยายามอย่างหนักที่จะดับไฟซึ่งโหมกระหน่ำอย่างต่อเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งในฤดูร้อน
สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงจากพายุเฮอร์ริเคนโอฟีเลีย ที่ถาโถมเข้าชายฝั่งตะวันตกของยุโรป ทำให้มีลมแรงที่ยิ่งทำให้ไฟลุกโชนหนักและไหม้ลามออกไปเป็นบริเวณกว้าง
มีรายงานประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 50 รายในโปรตุเกส โดย 15 รายมีอาการสาหัส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ยังคงมีผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงเด็กทารกวัยเพียงหนึ่งเดือนด้วย
ในสเปน มีรายงานว่า พบเหยื่อเคราะห์ร้าย 2 คนในรถยนต์ที่ถูกไฟไหม้ทั้งคันริมถนน
คาดการณ์ว่า จะมีฝนตกในช่วงเย็นวันที่ 16 ต.ค.ซึ่งอาจจะช่วยบรรเทาสถานการณ์ไฟป่าในหลายพื้นที่ให้ดีขึ้น
ทั้งนี้ มีการประกาศภาวะฉุกเฉินในตอนเหนือของโปรตุเกส บริเวณแม่น้ำทากัส ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของประเทศ นักดับเพลิงมากกว่า 6,000 นายพร้อมรถดับเพลิง 1,800 คันเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 16 ต.ค.
จากสถานการณ์ไฟป่าที่โหมรุนแรง ทำให้ทางการต้องสั่งปิดการจราจรในถนนนับสิบสาย รวมทั้งโรงเรียนในบางพื้นที่ โดยพื้นที่ที่ได้รับรายงานผู้เสียชีวิตอยู่ในพื้นที่โคอิมบรา ควอดา คาสเตลโล บรานกาและ วิเซอ
“ เราเหมือนเพิ่งผ่านขุมนรกมาเลย มันเลวร้ายมาก มีแต่ไฟทุกหนทุกแห่ง ” พลเมืองคนหนึ่งในเปนาโควา ใกล้กับโคอิมบรา กล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุและโทรทัศน์ RTP
ฟาบิโอ เวนตูรา ซึ่งอาศัยอยู่ในมารินนา กรันเด ในเขตเลเรีย กล่าวกับสื่อบีบีซีว่า เพื่อนบางคนในหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ป่าต้องสูญเสียบ้านไปหมด
“ ตอนนี้ เราไม่มีน้ำใช้ในบ้านเราเพราะท่อประปาเสียหายหมดจากไฟ เราต้องประหยัดน้ำ มีหมอกควันและเถ้าถ่านอยู่เหนือเมือง โรงเรียนปิด สาธารณูปโภคปิด ถนนบางสายปิด ผมมีเพื่อนที่ต้องเสียบ้านไป แต่ทุกคนก็ยังโอเคอยู่ในบริเวณแถวบ้านผม ”
นายกรัฐมนตรีมาเรียโน ราฮอยของสเปนเดินทางไปยังพื้นที่ปอนเตเวดราของแคว้นกาลิเชียและพบกับเจ้าหน้าที่บรรเทาภัยฉุกเฉินเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 16 ต.ค.
“ ผมคิดว่า นี่อาจไม่ใช่อุบัติเหตุ อาจเป็นการปลุกปั่น เรามาอยู่ที่ปาซอส เดอ บอร์เดน ซึ่งมีเหตุไฟไหม้จุดใหญ่ในเวลา 01.30 น.ซึ่งไหม้พร้อมกันถึง 5 จุดในที่ต่างๆ คุณจะเห็นว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะเป็นอย่างนี้หากเป็นเหตุภัยพิบัติตามธรรมชาติ ”