ไต้หวันปกป้องเสรีภาพแม้จีนกดดัน
ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินแห่งไต้หวันแถลงเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ว่า จะปกป้องเสรีภาพและประชาธิปไตยของไต้หวันท่ามกลางแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากจีนแผ่นดินใหญ่ โดยใช้สุนทรพจน์ที่กล่าวในวันชาติเพื่อเตือนว่า เกาะที่ปกครองตนเองแห่งนี้จะไม่ยอมก้มหัวให้กับการกดดัน
ที่ผ่านมา จีนมองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งในอาณาเขตของจีนและไม่เคยคิดจะใช้กำลังเพื่อบีบบังคับให้ไต้หวันอยู่ภายใต้การควบคุมของจีนอย่างเข้มงวด
แต่ความสัมพันธ์เริ่มถดถอยลงอย่างชัดเจนนับตั้งแต่ประธานาธิบดีไช่องเหวิน ซึ่งเป็นผู้นำพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าเข้าดำรงตำแหน่งผู้นำของไต้หวันเมื่อปีที่แล้ว โดยจีนเริ่มแคลงใจว่าเธอต้องการจะผลักดันให้ไต้หวันเป็นเอกราชจากจีนอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นการก้าวข้ามเส้นแดงของจีนซึ่งจีนยอมไม่ได้
จีนตัดกลไกในการพูดคุยปกติกับทางไต้หวัน มีการซ้อมรบของทางกองทัพรอบๆพื้นที่ของไต้หวัน และยกระดับการกดดันเพื่อจำกัดขอบเขตทางการทูตของไต้หวัน
ประธานาธิบดีไช่ซึ่งให้คำมั่นว่าจะดำรงความสงบสุขกับจีนระบุว่า รัฐบาลกำลังมองหาหนทางที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับทางปักกิ่ง และสัญญาที่จะดำเนินนโยบายที่สอดคล้องกันและมีเสถียรภาพร่วมกัน
“ เราต้องจดจำประชาธิปไตยและเสรีภาพว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่ได้มาผ่านความพยายามที่ไม่อาจประเมินค่าได้ของประชาชนชาวไต้หวัน”
“ ดังนั้น เราจำเป็นต้องใช้พลังของเราทั้งหมดเพื่อปกป้องคุณค่าและวิถีชีวิตที่เปี่ยมด้วยประชาธิปไตยและเสรีภาพ” เธอกล่าว
สุนทรพจน์ของเธอมีขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่จีนจะจัดการประชุมสภาคองเกรสของพรรคคอมมิวนิสต์ซึ่งจัดขึ้น 2 ครั้งในรอบทศวรรษ อย่างไรก็ตาม เธอยังได้ให้โร้ดแม็ปกับทางปักกิ่ง ซึ่งจะทำให้ความปรารถนาดีและความเป็นมิตรแผ่ขยายกว้างขึ้น ซึ่งผลตอบแทนกลับมาอาจทำให้เธอมีโอกาสที่จะเคลื่อนไหวและบริหารประเทศอย่างเป็นอิสระมากยิ่งขึ้น
“ เราได้เสนอความปรารถนาดีที่ยอดเยี่ยมของเรา ดิฉันเคยย้ำว่า ความปรารถนาดีของเราไม่เปลี่ยน คำสัญญาของเราไม่เปลี่ยน เราจะไม่เดินบนเส้นทางเดิมที่เป็นการเผชิญหน้ากัน แต่เราก็จะไม่ก้มหัวให้กับแรงกดดัน”
ประธานาธิบดีไช่ย้ำถึงความสำคัญของการดำเนินนโยบายใหม่คือการมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากขึ้นกับหลายประเทศในภูมิภาคนี้ โดยไต้หวันกำลังแสวงหาสถานะใหม่ในประชาคมนานาชาติ
ทั้งนี้ ไต้หวันพยายามที่จะลดระดับการพึ่งพาจีนและขยายความสัมพันธ์ที่กว้างขวางขึ้นกับ 18 ประเทศทั่วทั้งภูมิภาค ภายใต้นโยบายที่เน้นกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้นทั้งเศรษฐกิจและการเมือง
“ ความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในเอเชียแปซิฟิก ไต้หวันพร้อมแล้วที่จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในความมั่งคั่งและความมั่นคงของภูมิภาค” ผู้นำไต้หวันกล่าว.