ค้าปลีกอังกฤษต้องการแรงงานอียูหลังเบร็กซิท
ราคาสินค้าอาจปรับขึ้นและบริการส่งถึงบ้านอาจชะลอตัวลงหากธุรกิจค้าปลีกไม่สามารถเข้าถึงแรงงานจากสหภาพยุโรปได้หลังจากเบร็กซิท องค์การด้านการค้าเตือน
พลเมืองจากสหภาพยุโรป หรืออียูคิดเป็นเพียง 6% ของแรงงาน 170,000 คนในอุตสาหกรรม สมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกแห่งสหราชอาณาจักร (BRC) ระบุ
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจแรงงานประจำปี แรงงานจากอียูมักจะทำงานในด้านคลังสินค้าและการกระจายสินค้า
โดยมากกว่าครึ่งของผู้ค้าปลีกระบุว่า พนักงานจากอียูของพวกเขากำลังกังวลเกี่ยวกับสิทธิที่จะอาศัยอยู่ต่อไปในสหราชอาณาจักร
ทั้งนี้ มีเพียง 1 ใน 5 ของบริษัทค้าปลีกทั้งหมด ที่แรงงานจากอียูได้เดินทางออกจากสหราชอาณาจักรไปแล้ว อ้างอิงจากผลสำรวจของ BRC
โดยทาง BRC รายงานว่า การสิ้นสุดของสิทธิในการเคลื่อนไหวอย่างเสรีสำหรับพลเมืองอียูอาจทำให้ค่าใช้จ่ายสำหรับธุรกิจและผู้บริโภคสูงขึ้น ตั้งแต่บริการส่งของในสโตร์ถึงการส่งของในวันถัดไปของออร์เดอร์ออนไลน์ ไปจนกระทั่งถึงราคาสินค้าที่ซื้อ
เฮเลน ดิกคินสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ BRC กล่าวว่า การตัดสินใจเรื่องเบร็กซิทได้ก่อให้เกิดความผันผวนไม่มั่นคงแก่ทั้งธุรกิจและแรงงานจากอียู
“ ไม่ถูกต้องเลยที่ 16 เดือนผ่านไปแล้วหลังจากการลงประชามติจบลง แต่คนเหล่านี้ยังไม่มีความมั่นคงที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไป ”
“ และจากข้อมูลที่ชัดเจนของเรา หากเราไม่มีโครงสร้างที่ถูกต้องในการสนับสนุนผู้ค้าปลีกทั้งในแง่ความดึงดูด การรับสมัครงาน และการเก็บรักษาแรงงานไว้ ผู้บริโภคจะต้องเริ่มเห็นและรู้สึกได้ถึงผลกระทบเวลาที่ซื้อของในไม่ช้า ”
จอห์น แฮนเน็ต เลขานุการทั่วไปของ Union of Shop, Distributive and Allied Workers (USDAW) กล่าวว่า
“ ภาคส่วนธุรกิจยังมีความต้องการแรงงานจากอียู เพื่อให้มาทำงานในอุตสาหกรรมค้าปลีก การกระจายสินค้าและการผลิตอาหาร เราต้องการการดีเบต ที่อยู่บนพื้นฐานของความจริงและหลักฐาน เพื่อให้เห็นว่าโฉมหน้าของค้าปลีกมีแนวโน้มจะเปลี่ยนไปอย่างไรหลังเบร็กซิท ”
ทั้งนี้ โฆษกรัฐบาลแถลงว่า “ หลังจากเราออกจากอียู เราจะมีระบบตรวจคนเข้าเมืองเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สหราชอาณาจักร ซึ่งสำคัญต่อการพัฒนาของสิ่งที่จะเป็นมุมมองจากธุรกิจต่างๆ ”
“ เราได้ถามไปยังคณะกรรมการให้คำปรึกษาด้านการอพยพ (MAC) เพื่อประเมินบทบาทของพลเมืองอียูในเศรษฐกิจและสังคมของสหราชอาณาจักร กระบวนการทำงานที่เป็นอิสระของพวกเขาจะทำให้นายจ้างสามารถเสนอความคิดแก่คณะทำงานผู้เชี่ยวชาญที่ทรงอิทธิพล และความเป็นอิสระของรัฐบาล ”