ประท้วงให้คงประเทศเหมือนเดิมในสเปน
ประชาชนอย่างน้อย 350,000 คน ได้มาชุมนุมกันในเมืองบาร์เซโลนา เมืองหลวงของแคว้นกาตาลุญญา เพื่อเดินขบวนประท้วงการแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน
โดยผู้ชุมนุมต่างโบกธงของสเปนและคาตาลันไปมา พร้อมทั้งถือป้ายที่มีข้อความว่า “เราแข็งแกร่งขึ้นเมื่ออยู่ด้วยกัน” และ “กาตาลุญญาคือสเปน”
นี่เป็นการชุมนุมประท้วงที่มีผู้คนเดินทางมาเข้าร่วมมากที่สุดในแคว้นกาตาลุญญา หลังจากในสัปดาห์ที่แล้ว มีกรณีพิพาทเกิดขึ้นเรื่องการลงประชามติเพื่อแยกตัวเป็นเอกราชของแคว้น นอกจากนี้ ยังมีการเดินขบวนประท้วงทั่วสเปนในวันที่ 7 ต.ค.อีกด้วย
ผลการลงประชามติของแคว้นกาตาลุญญา ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ร่ำรวยทางตะวันออกเฉียงเหนือของสเปนชี้ว่า 90% ของประชาชน 2.3 ล้านคนที่มาใช้สิทธิล้วนสนับสนุนการเป็นเอกราช โดยจำนวนผู้มาใช้สิทธิคิดเป็น 43% ของจำนวนประชากรทั้งหมดของแคว้น
มีการกล่าวหาว่าการลงประชามติเป็นเรื่องที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และกล่องลงคะแนนเสียงจากคูหาเลือกตั้งถูกตำรวจสเปนยึดไปได้จำนวนหนึ่ง มีประชาชนเกือบ 900 คนที่ได้รับบาดเจ็บจากปฏิบัติการที่รุนแรงของตำรวจสเปน และเจ้าหน้าที่เองก็ได้รับบาดเจ็บถึง 33 นาย
โดยตำรวจในบาร์เซโลนารายงานว่า มีผู้ร่วมเดินขบวนประท้วงการแยกตัวเป็นเอกราชประมาณ 350,000 คนในวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ในขณะที่ผู้ประสานงานการชุมนุมอ้างว่า ตัวเลขผู้ชุมนุมสูงถึง 950,000 คน
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า Carles Puigdemont ผู้นำแคว้นกาตาลุญญาจะมีการประชุมรัฐสภาของแคว้นในวันที่ 10 ต.ค.ในเวลา 18.00 น. โดย ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญของสเปนสั่งระงับการประชุมสภาแคว้นซึ่งเคยมีกำหนดการในวันที่ 9 ต.ค.มากาอนหน้านี้
มาร์ทา ปาสกัล บอกกับผู้สื่อข่าวสื่อบีบีซีว่า ผู้นำแคว้นจะมีการแถลงการณ์เชิงสัญลักษณ์ โดยเขาจะเอ่ยถึงการลงประชามติ และกล่าวว่า ประชาชนชาวคาตาลันจำนวนมากต้องการมีอิสรภาพ ต้องการเอกราช ก่อนที่จะพูดซึ่งจะเป็นการปูทางไปสู่การประกาศเอกราช
ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ El Pais เมื่อวันที่ 7 ต.ค. นายกรัฐมนตรีสเปนกล่าวถึงความเข้มงวดของกฎหมายที่เขาและคณะรัฐบาลต้องมีการบังคับใช้ในการลงประชามติในครั้งนี้ “รัฐบาลต้องทำให้แน่ใจว่า การประกาศเอกราชจะไม่มีผลใดๆ”
นอกจากนี้ ในวันที่ 7 ต.ค. มีประชาชนหลายพันคนเดินขบวนเรียกร้องความเป็นหนึ่งเดียวกันของชาวสเปนในกรุงมาดริด เมืองหลวงของสเปนอีกด้วย
ขณะเดียวกัน กลุ่มธุรกิจมีการประกาศอย่างต่อเนื่องที่จะย้ายฐานธุรกิจออกจากแคว้นกาตาลุญญา เนื่องจากมีความกังวลเรื่องผลกระทบจากความผันผวนทางการเมืองที่ยังดำเนินต่อไป.