โคอิเกะไม่ลงเลือกตั้ง 100%
ยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียวที่ได้รับความนิยมจากประชาชนประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง 192 คนของพรรคความหวังซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหม่ของเธอเมื่อวันที่ 3 ต.ค. เพื่อหวังช่วงชิงคะแนนเสียงจากนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แต่ยืนยันว่าเธอไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 22 ต.ค.นี้อย่างแน่นอน
โดยโคอิเกะได้เขย่าสถานการณ์ทางการเมืองที่ซบเซาของญี่ปุ่นให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ด้วยการจัดตั้งพรรคความหวัง เพื่อมุ่งจะขึ้นแซงหน้าพรรคการเมืองเก่าของเธอคือพรรคเสรีประชาธิปไตย ( LDP) ของนายกฯอาเบะซึ่งเปรียบเสมือนเป็นโรงเรียนเก่าของเธอ
เธอวางแผนว่าจะมีผู้สมัครอย่างน้อย 233 คน เพื่อจะได้มีโอกาสที่จะกลายเป็นพรรคเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอันทรงอิทธิพลของญีุ่่นจากจำนวนที่นั่งในสภาทั้งหมด 465 ที่นั่ง
แต่เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามว่า เธอมีแผนจะลงสมัครรับเลือกตั้งเองด้วยหรือไม่ เธอตอบว่า “ ไม่แน่ๆ 100% เลยดิฉันได้บอกตั้งแต่แรกแล้ว”
เธอได้ย้ำถึงเรื่องนี้หลังจากโพลล์สุดสัปดาห์ของหนังสือพิมพ์โยมิอุริชี้ว่า มีแค่ 12% เท่านั้นที่ยอมรับการลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าการกรุงโตเกียวของเธอเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น
โดยโคอิเกะ ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกพรรค LDP และอดีตรัฐมนตรีกลาโหมระบุว่า เธอจะไม่ลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าการกรุงโตเกียวเพื่อลงเลือกตั้งในตอนนี้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่กำลังมุ่งมั่นในการทำงานสู่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
ในโตเกียวปี 2563 แต่เธอไม่ได้เก็บเป็นความลับในประเด็นที่ว่า เธอมีความต้องการจะเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น โดยเธอเคยถึงขนาดเรียกตัวเธอเองว่า โซริ ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า นายกฯ
เมื่อวันที่ 2 ต.ค. โยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าเลขานุการคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นพันธมิตรกับนายกฯ อาเบะระบุว่า หากโคอิเกะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งจริง เหตุใดจึงยังไม่ประกาศชื่อคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีหากพรรคความหวังของเธอชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้
“ หากโคอิเกะมีความเป็นห่วงประเทศจริง เธอควรพูดให้ชัดเจน รวมถึงการวางตัวบุคคลกับตำแหน่งทางการเมือง ทำไมเธอถึงพูดเกี่ยวกับความโปร่งใสของรัฐบาล” เขากล่าว
โทโมอากิ อิวาอิ อาจารย์สอนการเมืองประจำมหาวิทยาลัยนิฮงกล่าว่า การที่โคอิเกะไม่สมัครใจจะไปให้สุดทางจะเป็นการบั่นทอนแคมเปญของพรรคเธอ
“ เธอดูมีท่าทีว่า เธอยังไม่สามารถจะมีอำนาจได้ในตอนนี้ ” เขากล่าว
ทั้งนี้ มากกว่าครึ่งของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งจากพรรคของโคอิเกะล้วนเป็นอดีตสมาชิกพรรคประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักของญี่ปุ่นมาก่อนหน้านี้.