ทวิตเตอร์ปิดบัญชีกลุ่มหัวรุนแรงเกือบล้าน
เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ทางทวิตเตอร์ได้รับชัยชนะหลังต่อสู่กับทวีตที่มีความรุนแรงสุดโต่ง โดยระบุว่า ได้ทำการขจัดบัญชีเหล่านั้นก่อนที่ทางรัฐบาลเรียกร้องเสียอีก
ทางทวิตเตอร์ได้เผยความคืบหน้าผ่านรายงานความโปร่งใสล่าสุด เน้นให้เห็นว่านับตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค. ปี 2558 จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2560 มีการปิดบัญชีที่ “สนับสนุนการก่อการร้าย” ทั้งหมดถึง 935,897 บัญชี
การตรวจสอบจากภายในได้ช่วยสนับสนุนในการระบุบัญชีต่าง ๆ ที่โดนปิดว่าเป็นเพราะการทำกิจกรรมซึ่งไม่เหมาะสม ซึ่งในต้นปีมีบัญชีที่ทางรัฐบาลเรียกร้องให้ปิดน้อยกว่า 1%
ทวิตเตอร์ได้ถอนบัญชี 299,649 บัญชีออก ซึ่งทั้งหมดมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้
อ้างอิงจากทางทวิตเตอร์ ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า เมื่อครึ่งปีก่อนหน้านี้มีบัญชีที่ถูกปิดลดน้อยลง และ 3 ใน 4 ของบัญชีทั้งหมดถูกระงับก่อนจะมีการเริ่มทวีตด้วยซ้ำ
บริษัททวิตเตอร์ซึ่งตั้งอยู่ในซานฟรานซิสโก ต้องตกอยู่ภายใต้ความกดดันจากการป้องกันทางทวิตเตอร์เอง ไม่ให้ถูกใช้งานเป็นเครื่องมือสำหรับกระจายความเกลียดชังหรือค้นหาผู้คนเพื่อมาเป็นกำลังสำหรับทำสงคราม
ทวิตเตอร์ได้ระบุว่าบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเหตุก่อการร้ายจะเป็นบัญชี “ที่มีการปลุกระดมหรือส่งเสริมความรุนแรง ซึ่งข้องเกี่ยวกับองค์กรก่อการร้ายสากล มีการสนับสนุนองค์กรก่อการร้ายสากล และบัญชีที่หลบหลีกกฏเกณฑ์และข้อบังคับใช้”
ทวิตเตอร์ให้ข้อมูลว่า บัญชีที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหรือใช้ความรุนแรง ถือเป็นกลุ่มบัญชีที่ถูกปิดมากที่สุดในบรรดาบัญชีทั้งหมด
ในปีนี้ ทางเฟซบุ๊คเองก็ประกาศว่าจะลงมือปฏิบัติขั้นตอนเหล่านี้เช่นกัน และได้มีการว่าจ้างนักวิชาการด้าน AI โดยเฉพาะเพื่อกำจัดบัญชีที่ทำกิจกรรมที่สนับสนุนความรุนแรงและสุดโต่ง
นอกจากนี้ กลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำจี 7 ยังได้ชี้ถึงประเด็นดังกล่าว และเรียกร้องให้เหล่าผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และบริษัทในโซเชียลมีเดียช่วยกันต่อสู้กับคอนเทนต์จากกลุ่มสุดโต่งและหัวรุนแรงบนโลกออนไลน์.