อเมริกัน 2 ใน 3 รับข่าวสารจากเน็ต
ชาวอเมริกันในวัยผู้ใหญ่ประมาณ 2 ใน 3 รับรู้ข่าวสารบางส่วนจากโซเชียลมีเดีย ขณะที่ 2 ใน 10 คนรับรู้ข่าวบ่อยกว่านั้น อ้างอิงจากผลสำรวจของ Pew Research Center
โดยประมาณ 67% ของชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ล้วนพึ่งพาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และสแนปแชท อ้างอิงจากผลสำรวจ เมื่อเทียบกับจำนวน 62% ในปี 2559
นับเป็นครั้งแรกจากผลสำรวจของศูนย์ ที่ผลวิจัยพบว่า 55% ของชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่า 50 ปี บริโภคข่าวสารจากเว็บไซต์บนโซเชียลมีเดีย เพิ่มขึ้นจาก 45% ในปี 2559
“ ขณะที่โดยรวมมีการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย การเติบโตได้แรงขับเคลื่อนหลักจากชาวอเมริกันที่สูงวัยขึ้น มีการศึกษาน้อย และไม่ใช่กลุ่มคนผิวขาว ” ผลวิจัยระบุ
กลุ่มคนในวัยต่ำกว่า 50 ปียังคงมีจำนวนมากกว่าผู้ที่สูงวัยกว่าที่รับรู้ข่าวสารจากโซเชียลมีเดียเหล่านี้ โดย 78% กล่าวว่าพวกเขาบริโภคข่าวสารจากโซเชียลมีเดีย ไม่เปลี่ยนแปลงจากปี 2559
ทั้งนี้ เฟซบุ๊กยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่โดดเด่นสำหรับข่าวสารเนื่องจากชาวอเมริกัน 45% ชี้ว่า พวกเขาได้รับข่าวสารจากเฟซบุ๊ก โดยยูทูบตามมาเป็นอันดับที่ 2 ด้วยตัวเลข 18% ขณะที่มีเพียง 11% เท่านั้นที่กล่าวว่า พวกเขารับรู้ข่าวสารจากทวิตเตอร์
นอกจากนี้ ผลวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า 3 ใน 4 ของกลุ่มคนที่ไม่ใช่ผิวขาว หรือ 74% ที่ได้ข่าวสารจากโซเชียลมีเดียปรับเพิ่มขึ้นจาก 64% ในปี 2559
การเสพข่าวสารบนโซเชียลมีเดียยังเพิ่มขึ้นในกลุ่มชาวอเมริกันที่มีการศึกษาน้อยกว่าระดับปริญญาตรี เพิ่มขึ้น 9% เป็น 69% ในปี 2560 เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ในกลุ่มที่มีการศึกษาระดับอนุปริญญา การรับข่าวในโซเชียลมีเดียกลับลดลงเล็กน้อยในปีนี้
ขณะที่ทวิตเตอร์ตามหลังเฟซบุ๊กและยูทูบในระดับที่ห่างไกลในการบริโภคข่าวสาร แต่ทวิตเตอร์ยังคงได้ผลประโยชน์อยู่บ้างจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในนักการเมืองที่มีความเคลื่อนไหวบ่อยครั้งที่สุดบนทวิตเตอร์
โดยทาง Pew ซึ่งเป็นผู้ทำวิจัยระบุว่า 74% ของผู้ใหญ่ชาวอเมริกันซึ่งเป็นผู้ใช้งานทวิตเตอร์รับข่าวสารจากทวิตเตอร์ เพิ่มขึ้นจาก 59% ของการใช้งานในปี 2559.