สหรัฐฯสั่งรัสเซียปิดสถานกงสุลเพิ่ม
รัสเซียได้รับคำสั่งจากสหรัฐฯให้ปิดสถานกงสุลของรัสเซียในนครซานฟรานซิสโกและ 2 หน่วยงานผู้แทนการค้าเพื่อเป็นการตอบโต้คำสั่งที่ผ่านมาของรัสเซีย
โดยสถานกงสุลและสำนักผู้แทนการค้าของรัสเซียในนครนิวยอร์กและกรุงวอชิงตันจะต้องปิดภายในวันที่ 2 ก.ย.นี้
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังจากทางรัสเซียมีคำสั่งลดจำนวนผู้แทนทางการทูตของสหรัฐฯ ประจำรัสเซียเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา และตามหลังมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ของสหรัฐฯที่มีต่อรัสเซียในกรณีการผนวกรวมแคว้นไครเมียและแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้มีการขับไล่ผู้แทนทางการทูตชาวรัสเซียออกนอกสหรัฐฯ 35 คน โดยอดีตประธานาธิบดีบารัคโอบามาเป็นผู้สั่งขับไล่ผู้แทนทูตกลุ่มนั้น เมื่อเดือนธ.ค.ปี 2559
แม้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียจะยังไม่มีท่าทีขานรับกับความเคลื่อนไหวครั้งนี้ แต่นับตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง เขาได้ประกาศเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ให้สหรัฐฯลดจำนวนผู้แทนทูต 755 คนในรัสเซียลง เพื่อเป็นการตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
นักการทูตสหรัฐฯ ยังคงทยอยเดินทางออกจากรัสเซียจนกระทั่งถึงวันที่ 1 ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นเพียงวันเดียวก่อนที่สหรัฐฯจะสั่งปิดสถานกงสุลรัสเซียและอีก 2 หน่วยงานทางการค้า
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกล่าวเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ว่า แม้สถานกงสุลและหน่วยงานทางการค้าจะปิดทำการ แต่คณะทำงานของรัสเซียไม่จำเป็นต้องเดินทางออกจากสหรัฐฯ โดยรัสเซียได้รับอนุญาตให้คงทรัพย์สินไว้ได้ แต่ห้ามใช้งาน
ทั้งนี้ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า ท่าทีของสหรัฐฯเป็นไปเพื่อความสมดุลของนโยบาย โดยโทษรัสเซียที่ทำให้ความสัมพันธ์ของสองประเทศย่ำแย่ลง และชี้ว่าต้องการยุติความขัดแย้งระหว่างกัน
จากความเคลื่อนไหวล่าสุดครั้งนี้ ทำให้ทั้งสหรัฐฯและรัสเซียต่างมีสถานกงสุล 3 แห่งของตัวเองในอีกประเทศ
นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของรัสเซียต่อสายหานายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และกล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ โดยนายลาฟรอฟกล่าวว่า ทางมอสโกจะศึกษาคำสั่งและขานรับอย่างเหมาะสม อ้างอิงจากแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย
ทั้งนายลาฟรอฟและนายทิลเลอร์สันมีกำหนดจะประชุมกันในเดือนก.ย.นี้ โดยจะเป็นการประชุมนอกรอบของสมัชชาสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก
ก่อนหน้านี้ในเดือนส.ค. ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า ความสัมพันธ์ของสหรัฐฯกับรัสเซียตกต่ำลงถึงจุดอันตราย ท่ามกลางมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ของสหรัฐฯ ที่มีต่อรัสเซีย.