เสียหายหลายพันล้านจากพายุฮาร์วีย์
โรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งถูกปิดและเกือบ 1 ใน 5 ของการผลิตน้ำมันและก๊าซในอ่าวเม็กซิโกต้องถูกระงับหลังจากพายุฮาร์วีย์ที่มีความรุนแรงที่สุดในรอบกว่าทศวรรษเข้าถล่มสหรัฐฯ
โดยอิทธิพลจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ทำให้เกิดลมแรงและน้ำท่วมสูงทำให้ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่หลายพันคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตัวเอง
คาดการณ์ว่าการปิดโรงกลั่นจะเป็นผลทำให้ราคาก๊าซในสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นชั่วคราว
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจจากพายุจะสูงถึง 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยการสูญเสียโดยตรงอยู่ที่ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เส้นทางการเคลื่อนที่ของพายุที่พัดผ่านทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐเท็กซัสและอ่าวเม็กซิโกได้ส่งผลกระทบกับหัวใจของอุตสาหกรรมพลังงานของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งสำคัญเกือบครึ่งหนึ่งของความสามารถในการกลั่น และ 1 ใน 5 ของการผลิตน้ำมัน
เมืองฮุสตัน ซึ่งถูกน้ำท่วมเต็มท้องถนน ยังเป็นฐานสำคัญแห่งหนึ่งของท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ
ราคาก๊าซของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ล่วงหน้าก่อนพายุเข้า โจเซฟ บรูซูแลส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำ RSM US กล่าว โดยเขาคาดการณ์ว่า ราคาจะกระโดดขึ้นไปอีก 20-30% ในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้าในภูมิภาคเท็กซัส แต่ในพื้นที่อื่น ราคาอาจปรับเพิ่มขึ้นไม่มากนัก
เขาเสริมว่า ราคาอาหารก็ได้รับผลกระทบด้วย เนื่องจากการขนส่งข้าวสาลีและถั่วเหลืองล่าช้า
แต่สำหรับทั่วโลก ดูจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า เนื่องจากสหรัฐฯไม่ใช่ประเทศผู้ส่งออกพลังงานรายใหญ่และซัพพลายที่มีอยู่ยังคงสูงอยู่มาก
ทั้งนี้ ฮุสตันเป็นเมืองขนาดใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐฯ และสร้างผลผลิตทางเศรษฐกิจมากกว่า 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี
โดยบรูซูแลสกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจชะลอตัวลงประมาณ 1 ใน 10 ในไตรมาสนี้เนื่องจากผลกระทบจากพายุ และเศรษฐกิจจะฟื้นคืนกลับมาในช่วง 6 เดือนถัดไป เนื่องจากการใช้จ่ายเพื่อการซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างที่เพิ่มขึ้น
ประมาณ 18% ของการผลิตน้ำมันและก๊าซในอ่าวเม็กซิโกต้องหยุดชะงัก อ้างอิงจากสำนักกำกับดูแลความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมและประมาณ 11% ของความสามารถในการกลั่นของสหรัฐฯคชต้องหยุดชะงักลง อ้างอิงจากข้อมูลล่าสุดของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ.
หมายเหตุ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 33.41 บาท / 29 ส.ค. 2560