เตือนภัยเฮอริเคนฮาร์วีย์ถล่มเท็กซัส
พายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ยกระดับความรุนแรงขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 25 ส.ค.จนกลายเป็นพายุเฮอริเคนที่รุนแรงที่สุดในรอบ 12 ปีที่เข้าถล่มสหรัฐฯ โดยทางการเตือนประชาชนให้อยู่แต่ในที่พัก หลีกเลี่ยงจากลมแรงและน้ำท่วมที่อาจเป็นภัยถึงแก่ชีวิตจากเฮอริเคน
โดยเฮอริเคนฮาร์วีย์อาจทำให้เกิดดินถล่มในช่วงคืนวันที่ 25 ส.ค. ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 26 ส.ค.ในพื้นที่ชายฝั่งเท็กซัสตอนกลางซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองคอร์ปัสคริสติและฮฺุสตัน และเป็นที่ตั้งของโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ โดยระบบปฎิบัติการน้ำมันและก๊าซได้รับผลกระทบและราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น
สำนักพยากรณ์อากาศแห่งชาติแจ้งว่า“ ตอนนี้ควรหลบเลี่ยงจากภาวะลมแรงโดยด่วน ที่กำบังที่ไม่เพียงพออาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บอย่างรุนแรง หรือเสียชีวิต หรือทำให้เสียหายหนักต่อผู้คน ”
เฮอริเคนฮาร์วีย์เพิ่มระดับความรุนแรงเป็นระดับ 2 ด้วยกำลังแรงลมถึง 169 ก.ม./ช.ม.โดยพายุเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือด้วยตวามเร็ว 295 ก.ม./ช.ม.บริเวณท่าเรือโอคอนเนอร์ รัฐเท็กซัส
คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำฝนจะสูงถึง 35 นิ้วช่วงที่ผ่านรัฐเท็กซัสและระดับน้ำทะเลอาจสูงถึง 3.7 เมตร ในหลุยส์เซียนาอาจมีปริมาณฝน 10 – 15 นิ้ว โดยมีการเตือนภัยน้ำท่วมในหลุยส์เซียนาและทางเหนือของเม็กซิโก
มีการยกเลิกเที่ยวบินหรือล่าช้าไปอย่างน้อย 40 ไฟลท์ทั้งขาเข้าและขาออกของสนามบินหลักในเท็กซัสเมื่อวันที่ 25 ส.ค. อ้างอิงจาก Flightaware.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ติดตามการจราจรทางอากาศ
หลุยส์เซียนาและเท็กซัสประกาศรัฐภัยพิบัติ โดยให้ทางรัฐเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สั่งการสรุปและพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือหากจำเป็น ทำเนียบขาวรายงานเมื่อวันที่ 24 ส.ค.
โดยศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติคาดการณ์ว่า เฮอริเคนฮาร์วีย์จะทวีความรุนแรงเป็นระดับ 3 เมื่อถึงฝั่ง และจะเป็นเฮอริเคนที่มีกำลังแรงที่สุดเป็นอันดับ 3 ตามมาตราเฮอริเคนแซฟเฟอร์-ซิมป์สัน ซึ่งจะทำให้เป็นเฮอริเคนแรกที่โจมตีพื้นที่บริเวณแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ นับตั้งแต่เฮอริเคนวิลมาเข้าถล่มฟลอริดาในปี 2548
พายุอาจทำให้มีน้ำท่วมในพื้นที่แหล่งน้ำมันดิบจากหินดินดานทางใต้ของเท็กซัสซึ่งผลิตน้ำมันมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน.
