เศรษฐีอินเดียถูกวิจารณ์ช่วยประเทศน้อย
นิวเดลี – อินเดียเป็นประเทศที่มีมหาเศรษฐีมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก และมีการตั้งคำถามว่า มหาเศรษฐีช่วยเหลือประเทศในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอกสองที่ร้ายแรงนี้มากแค่ไหน
ในการระบาดระลอกแรก มีกลุ่มซูเปอร์ริชจำนวนมากที่ให้ความช่วยเหลือประเทศ แต่ในการระบาดระลอกสอง มีคนช่วยน้อยลง ไปช่วยในส่วนจัดหาออกซิเจนให้มากขึ้น และอีกหลายคนพากันหนีไปต่างประเทศ
นักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศอย่างมูเคช อัมบานี เจ้าของ Reliance Industries Limited (RIL) บริจาคเงินจำนวน 5 พันล้านรูปี ( หรือราว 2,122 ล้านบาท) ให้ Care Fund ของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีในเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว แต่ในครั้งนี้ เขามุ่งเน้นจัดตั้งศูนย์ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 และจัดหาออกซิเจนให้
โดย RIL อ้างว่าผลิตออกซิเจนเหลวเกรดการแพทย์ได้กว่า 11% ของประเทศ และช่วยจัดหาออกซิเจนฟรีให้กับหลายรัฐในอินเดีย
แต่คนทั่วไปหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากบรรดามหาเศรษฐีในอินเดียมากกว่านี้ และหวังว่าจะมีคนใจบุญเหมือนกับอาซิม เปรมจี ประธานผู้ก่อตั้ง Wipro
เปรมจีได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญที่สุดของอินเดีย โดยเขาบริจาคเงินมากกว่าเศรษฐีคนอื่นกว่า 10 เท่า จากข้อมูลของ Edelgive Hurun India Philanthropy list 2020
จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส เขาอยู่ในอันดับ 3 ของมหาเศรษฐีที่บริจาคเงินมากที่สุดในโลกในการบรรเทาโควิด-19 เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว โดยเขาบริจาคเงินถึง 132 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 4,104 ล้านบาทให้องค์กรด้านมนุษยธรรมและสาธารณสุขเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส
มีเสียงวิจารณ์บรรดาดาราจากบอลลีวูดด้วย เนื่องจากมีรายได้มาก แต่ช่วยเหลือสังคมน้อย โดยเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ดาราสาวอนุชกา ชาร์มาและสามีนักคริกเก็ตชื่อดัง วิรัต โคห์ลี ออกมาประกาศขอบริจาคให้กองทุนของพวกเขาที่เปิดตัวบน Ketto
นักข่าวอาวุโสสันการ์ชาน ธากูร์วิจารณ์ว่า ทั้งสองคนพยายามหาชื่อเสียงให้ตัวเองและไม่มีการชี้แจงถึงเงินบริจาคแต่อย่างใด
“ อินเดียยังมีลมหายใจอยู่เพราะประชาชนคนธรรมดาช่วยเหลือคนธรรมดาด้วยกันเอง ไม่ใช่เพราะเซเลบมาโพสต์ขอร้องและประชาสัมพันธ์ตัวเอง” เขาทวีตบนทวิตเตอร์ในวันเดียวกัน
ที่ถูกวิจารณ์มากที่สุดคือกลุ่มเศรษฐีในอินเดียที่พากันหนีไปต่างประเทศก่อนที่หลายประเทศจะประกาศแบนนักเดินทางจากอินเดีย
จากรายงานของ The Times of India หลายคนจ่ายเงินหลายพันปอนด์เพื่อเดินทางหนีไปสหราชอาณาจักร โดยมีเครื่องบินส่วนตัว 8 ลำจากอินเดียที่ลงจอดในอังกฤษหนึ่งวันก่อนประกาศแบนนักเดินทางจากอินเดียในวันที่ 30 เม.ย. จากข้อมูลของ FlightAware
ราชัน เมห์รา ซีอีโอของ Club One Air บริษัทเครื่องบินเช่าเหมาลำและอดีตผู้บริหารกาตาร์แอร์เวย์ในอินเดียระบุว่า มีทั้งเจ้าของบริษัทรายได้สูง นักอุตสาหกรรมและนักการเมืองเดินทางออกจากอินเดีย โดยมีดูไบเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม
“ ก็ประมาณได้ว่า 20 – 25% ของการเดินทางด้วยเครื่องบินในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเม.ย.เป็นเศรษฐีอินเดีย”
โดยเขาเสริมว่าผู้ที่เดินทางออกนอกประเทศไม่มีความตั้งใจจะกลับประเทศอย่างน้อยอีกหลายสัปดาห์
“อาจเป็นช่วงต้นเดือน หรือกลางเดือนมิ.ย. ที่พวกเขาจะกลับ ถึงเวลานั้น สถานการณ์อาจดีขึ้นแล้ว”