อินเดียดับรายวันจากโควิดทะลุ 4 พันคน
เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ยอดผู้เสียชีวิตรายวันจากโควิด-19 ในอินเดียพุ่งสูงเกิน 4,000 รายเป็นครั้งแรก โดยรัฐทมิฬนาฑูเป็นรัฐล่าสุดที่ประกาศล็อกดาวน์เพื่อควบคุมตัวเลขผู้ติดเชื้อ
โดยกระทรวงสาธารณสุขอินเดียรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ถึง 4,187 รายในรอบ 24 ชม.ที่ผ่านมา รวมถึงผู้ติดเชื้อรายใหม่อีกกว่า 400,000 รายต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 3 จนถึงตอนนี้ อินเดียมียอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 21 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากโควิด-19 ถึง 238,000 รายตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดในประเทศ
วิกฤตครั้งนี้ลุกลามส่งผลกระทบร้ายแรงต่อระบบสาธารณสุขของอินเดีย ทำให้ขาดแคลนทั้งเตียงผู้ป่วย ออกซิเจนและบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลายรายกำลังจะเสียชีวิตขณะรอเตียง ทั้งในและนอกคลินิกที่ล้นไปด้วยคนไข้ ก่อนที่ได้พบแพทย์
ในรัฐทมิฬนาฑู ทางการประกาศล็อกดาวน์นาน 2 สัปดาห์ หนึ่งวันหลังจากรัฐทางใต้แห่งนี้มีผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งสูงสุดทุบสถิติ ถึง 26,465 รายในวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา
ตั้งแต่ 10 พ.ค.เป็นต้นไป จะปิดร้านค้าที่ไม่จำเป็นในรัฐทั้งหมด รวมถึงร้านขายเครื่องดื่มของรัฐ ร้านอาหารให้บริการได้เฉพาะซื้อกลับบ้าน ขณะที่ร้านขายของชำจะเปิดให้บริการในเวลา 08.00 – 24.00 น. และยังมีการจำกัดบริการเดลิเวรีอาหารด้วย
ในสัปดาห์นี้ รัฐในอินเดียที่ประกาศล็อกดาวน์เต็มรูปแบบมีตั้งแต่รัฐทางเหนืออย่างรัฐราชาสถานไปจนถึงรัฐทางใต้อย่างรัฐกรณาฎกะ แม้นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีจะออกโรงเตือนให้พิจารณาใช้การล็อกดาวน์เป็นมาตรการสุดท้ายก็ตาม
“สถานการณ์ในปัจจุบัน เราต้องช่วยประเทศโดยไม่ใช้การล็อกดาวน์ ผมขอให้รัฐใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นทางเลือกสุดท้าย เราต้องพยายามมากเพื่อหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์ และมุ่งเน้นการควบคุมเฉพาะจุดเป็นพื้นที่เล็กๆ” นายกฯโมดีระบุเมื่อช่วงปลายเดือนเม.ย.
ทั้งนี้ อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดและครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว ในช่วงเวลาที่ประเทศที่มีประชากรมากถึง 1,360 ล้านคนรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 กว่า 500 ราย และมีผู้เสียชีวิต 10 ราย
มีการมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศหลังจากมีการประกาศเตือนไม่ถึง 4 ชม.และมีการวางแผนเพียงเล็กน้อย ก่อให้เกิดวิกฤตแรงงานอพยพในประเทศ นอกจากนี้ ยังทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก ธุรกิจ โรงงานและการก่อสร้างดิ่งฮวบลงครึ่งหนึ่ง เศรษฐกิจของประเทศหดตัวลงถึง 24% ในไตรมาสเดือนเม.ย. – มิ.ย. และทำให้เศรษฐกิจของอินเดียถดถอยลงมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกในปี 2539 เป็นต้นมา