วัคซีนกระตุ้นของ’โมเดอร์นา’เพิ่มภูมิคุ้มกันโควิดกลายพันธุ์
นิวยอร์ก : เมื่อวันที่ 5 พ.ค. บริษัทโมเดอร์นาระบุว่า ข้อมูลการทดลองกับมนุษย์เบื้องต้นชี้ว่า วัคซีนต้านโควิด-19 ที่มีในปัจจุบันโดสที่ 3 หรือวัคซีนใหม่ที่ทดสอบสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันต้านไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่พบในบราซิลและแอฟริกาใต้ได้
โดยบริษัทยังระบุว่า วัคซีนกระตุ้น ที่ฉีดให้กับอาสาสมัครที่รับวัคซีนของโมเดอร์นาครบ 2 โดสแล้วก่อนหน้านี้ ยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันต้านไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิมด้วย
ข้อมูลเบื้องต้นมาจากการทดลองวัคซีนกับอาสาสมัคร 40 คนด้วยวัคซีนต้านโควิด-19 ของโมเดอร์นาที่มีอยู่ทั้งสองโดส และวัคซีนเวอร์ชั่นที่พัฒนาเพื่อป้องกันไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่มีชื่อเรียกว่า mRNA – 1273.351 โดยโมเดอร์นายังศึกษาวัคซีนผสมที่รวมทั้งวัคซีนเวอร์ชั่นใหม่และที่มีอยู่เข้าด้วยกัน
ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า ขณะที่วัคซีนกระตุ้นของวัคซีนที่มีอยู่สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันต้านไวรัสกลายพันธุ์ทุกสายพันธุ์ แต่วัคซีนกระตุ้นที่พัฒนาใหม่มีผลป้องกันไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ได้มากกว่าวัคซีนที่มีอยู่เดิม
สเตฟาน บันเซล ซีอีโอของบ.โมเดอร์นาระบุในแถลงการณ์ว่า “เราพอใจกับข้อมูลใหม่นี้ ที่เสริมสร้างความเชื่อมั่นของเราว่ายุทธศาสตร์วัคซีนกระตุ้นของเราสามารถป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ได้”
เคยคิดกันว่าไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้และบราซิลจะต่อต้านวัคซีนที่มีอยู่ จนถึงตอนนี้ ในสหรัฐฯตรวจพบไวรัสทั้งสองสายพันธุ์ แต่มีผู้ติดเชื้อจากทั้งสองสายพันธุ์จำนวนไม่มาก จากข้อมูลกลางที่มีการอัพเดทล่าสุดในเดือนเม.ย.
ผลการศึกษาของโมเดอร์นา จะเช็คระดับของภูมิคุ้มกันในเลือดของอาสาสมัครที่ต่อสู้ไวรัสโควิด-19 โดยผลเบื้องต้นชี้ว่า สามารถป้องกันไวรัสได้ โดยบริษัทประกาศครั้งแรกว่ากำลังทำการศึกษาวิธีป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในเดือนก.พ.
คาดการณ์ว่าโมเดอร์นาจะแชร์ข้อมูลเพิ่มเติมในเร็วๆนี้เกี่ยวกับวัคซีนกระตุ้นอีกตัวที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นวัคซีนที่พัฒนาใหม่ผสมรวมกับวัคซีนต้านโควิด-19 ที่มีอยู่
บริษัทระบุว่า นักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลสหรัฐฯประจำสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติ ( NIAID) กำลังทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกันและยังอยู่ในระยะเบื้องต้น