บิลเกตส์หย่า กระทบหรือไม่กระทบการกุศลที่ทำ
นิวยอร์ก : คำประกาศว่าคู่สามีภรรยามหาเศรษฐีผู้ใจบุญระดับโลกอย่างบิล เกตส์และเมลินดาจะหย่าหลังแต่งงานอยู่ร่วมกันมานานกว่า 27 ปี ทำให้ช็อกไปทั่วโลก และก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับอนาคตของการทำการกุศลจำนวนมหาศาลร่วมกันของทั้งคู่
มีการเจาะลึกไปที่มูลนิธิเกตส์ ทั้งในด้านการทำงานและโครงการที่มูลนิธิให้การสนับสนุน รวมถึงผลกระทบกับโควิด-19 และผลกระทบกับมูลนิธิจากการหย่าครั้งนี้
ในปี 2543 ทั้งสองคนร่วมกันก่อตั้งมูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์ขึ้นเพื่อต่อสู้กับโรคร้ายและความยากจนทั่วโลก โดยในสหรัฐฯ จะมุ่งเน้นที่การจัดหาเพื่อให้เข้าถึงคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น เพื่อเป็นการปรับปรุงพัฒนาการศึกษาทั่วไป
ด้วยจำนวนเจ้าหน้าที่ 1,600 คนในสำนักงานทั่วโลก มูลนิธิเกตส์ได้บริจาคเงินประมาณ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 155,607 ล้านบาทในแต่ละปีให้กับหลายภาคส่วนทั้งสาธารณสุขและการพัฒนาทั่วโลก
โดยมูลนิธิระบุว่า ได้ใช้เงินไปแล้วทั้งหมด 54,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.70 ล้านล้านบาทนับตั้งแต่ก่อตั้ง
มีการใช้เงินเพื่อสู้กับโรคมาลาเรียเพียงโรคเดียวถึงประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเพื่อกำจัดโรคนี้ให้หมดไปภายในช่วงอายุคนรุ่นนี้
ทางมูลนิธิยังได้บริจาคเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อส่งเสริมการกำจัดโรคโปลิโอด้วยการฉีดวัคซีนให้เด็กๆเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังได้บริจาคเงินกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงการระบาดของอีโบลาในปี 2557 ด้วย
โดยโครงการอื่นๆอีกหลายสิบโครงการยังรวมถึงการสนับสนุนด้านโภชนาการ สุขาภิบาล สุขภาพแม่และเด็กทารกแรกเกิด และการพัฒนาเกษตรกรรม
ในปีที่แล้ว มูลนิธิให้เงินช่วยเหลือประมาณ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อช่วยต่อสู้กับโควิด-19 โดยเป็นค่าวัคซีนต้านโควิด-19 สำหรับหลายประเทศในแอฟริกาและเอเชียใต้
มีการบริจาคเงินเพื่อการตรวจหาเชื้อโควิด-19 , ชุด PPE และสนับสนุนบริการสาธารณสุข โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา มูลนิธิยังมีความสำคัญในการจัดตั้งโครงการ Covax ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยสนับสนุนจัดหาวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ประเทศยากจนทั่วโลก
โดยรวมแล้ว ทางมูลนิธิระบุว่าได้ใช้เงินไปประมาณ 1,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯไปกับการต่อสู้โควิด-19 นับตั้งแต่เริ่มมีการระบาด
อย่างไรก็ตาม ทางมูลนิธิถูกกล่าวหาว่าผลักดันให้มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดลงนามในข้อตกลงสุดพิเศษกับบริษัทแอสตราเซเนกาเพื่อผลิตวัคซีน แทนที่จะบริจาคสิทธิบัตรให้บริษัทผู้ผลิตยาจำนวนมาก
ในปี 2553 เกตส์ร่วมก่อตั้ง Giving Pledge initiative กับวอร์เรน บัฟเฟต ซึ่งสามารถโน้มน้าวให้บรรดามหาเศรษฐีบริจาคทรัพย์สินอย่างน้อย 50% ของตัวเองเพื่อการกุศล รวมถึงมูลนิธิเกตส์ด้วย โดยจนถึงตอนนี้ มีมหาเศรษฐีกว่า 200 คนที่เข้าร่วมโครงการนี้
บิล ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีร่ำรวยที่สุดอันดับ 4 ของโลกจากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ด้วยจำนวนทรัพย์สิน 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเมลินดา ให้คำมั่นว่าจะยังทำงานร่วมกันเพื่อมูลนิธิต่อไป
แต่การหย่าร้างของพวกเขาก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับทรัพย์สินของพวกเขา ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ได้บริจาคให้มูลนิธิ รวมถึง Giving Pledge ที่พวกเขาก่อตั้งร่วมกันด้วย
อนาคตของมูลนิธิเกตส์อาจขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทางการเงินของการหย่าร้าง ซึ่งยังไม่มีใครทราบ
เมลินดาเองอาจต้องการเดินตามรอยของแมคเคนซี สก็อต ซึ่งบริจาคทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 186,600 ล้านบาทอย่างรวดเร็วหลังหย่าร้างกับอดีตสามีเจฟ เบซอส ผู้ก่อตั้งยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซอย่างอเมซอนในปี 2562 และตอนนี้เธอได้กลายเป็นผู้ใจบุญที่ทรงอิทธิพลและเป็นอิสระตามสิทธิของเธอแล้ว