ผู้เชี่ยวชาญเตือนเรื่อง ‘หุ่นยนต์นักฆ่า’
ผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์ชั้นนำมากกว่า 100 คนเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติเฝ้าระวังการพัฒนา และการใช้หุ่นยนต์นักฆ่า
ในจดหมายเปิดผนึกถึงยูเอ็นที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 21 ส.ค. กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์หรือ AI จำนวน 116 คน ซึ่งรวมถึงมหาเศรษฐีพันล้านอย่างอีลอน มัสค์ จากเทสลาและมุสตาฟา สุไลมานจากกูเกิลได้กระตุ้นเตือนให้ยูเอ็นเข้าควบคุมสถานการณ์ ‘อาวุธของผู้ก่อการร้าย’ ซึ่งก็คือการห้ามใช้ AI ในการบริหารเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์
“ เมื่อได้พัฒนาแล้ว พวกหุ่นยนต์ติดอาวุธจะสร้างความขัดแย้งและต่อสู้กันในขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าที่เคยมีมา และด้วยความเร็วเกินกว่าที่มนุษย์จะเข้าใจได้ ” อ้างอิงจากข้อความในจดหมาย
นอกจากนี้ ในจดหมายยังเสริมว่า “ นี่อาจเป็นอาวุธของผู้ร้าย อาวุธที่กลุ่มก่อการร้ายจะนำใช้กับประชาชนที่บริสุทธิ์ และเป็นอาวุธที่จะถูกแฮกเพื่อใช้ในทางที่ไม่พึงประสงค์ ”
กลุ่มยูเอ็นมีกำหนดการจะประชุมในวันที่ 21 ส.ค. เพื่ออภิปรายเกี่ยวกับอาวุธอัตโนมัติ ทั้งโดรน ปืนกลอัตโนมัติและรถถัง อย่างไรก็ตาม การประชุมได้ถูกเลื่อนไปถึงเดือนพ.ย. อ้างอิงจากเว็บไซต์ของกลุ่ม
โดยผู้เชี่ยวชาญด้าน AI จาก 26 ประเทศเน้นให้เห็นถึงความกดดันสำหรับทางยูเอ็นที่จะต้องเริ่มลงมือปฏิบัติการ ขณะที่พวกเขาเตือนถึงภัยของอาวุธอัตโนมัติที่สามารถคร่าชีวิตได้ ซึ่งอาจเป็น ‘การปฏิวัติครั้งที่ 3 ในการสู้รบ’
“ เราไม่มีเวลานานพอที่จะเข้าควบคุม เนื่องจากเมื่อกล่องแพนโดราเปิดอยู่ ก็จะเป็นเรื่องยากที่จะปิดมัน ” พวกเขากล่าว
ในปี 2558 ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี นักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์มากกว่า 1,000 คนได้ร่วมลงนามในจดหมายเตือนเกี่ยวกับอันตรายของหุ่นยนต์ติดอาวุธ โดยในบรรดาผู้ร่วมลงชื่อเหล่านั้นคือนักวิทยาศาสตร์อย่างสตีเฟน ฮอว์กิง ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแอปเปิลอย่างสตีฟ วอซเนียค และมหาเศรษฐีพันล้านอย่างอีลอน มัสค์
การสั่งแบนที่ทรงอิทธิพลในการพัฒนาเทคโนโลยี ‘หุ่นยนต์นักฆ่า’ ที่เคยมีการพูดคุยกันก่อนหน้านี้จากคณะกรรมการสหประชาชาติ
อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่คัดค้านการใช้งาน AI เชื่อว่า พวกหุ่นยนต์จะกลายเป็นภัยต่อมนุษยชาติและ ระบบสังหารอัตโนมัติควรถูกแบน.