ไบเดนตั้งเป้าผู้ใหญ่ 70% ฉีดวัคซีนก่อน 4 ก.ค.
เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 อย่างน้อย 1 เข็มให้ประชากรผู้ใหญ่ในสหรัฐฯได้ถึง 70% ภายในวันที่ 4 ก.ค.ซึ่งเป็นวันหยุดฉลองวันชาติสหรัฐฯ และขอให้ประชาชนวัย 20 – 30 กว่าปีเข้ารับวัคซีนให้มากขึ้น
โดยไบเดน ซึ่งให้ความสำคัญที่สุดกับการต่อสู้โควิด-19 เคยประกาศก่อนหน้านี้ว่าวันที่ 4 ก.ค.เป็นวันเป้าหมายเพื่อให้ชาวอเมริกันสามารถรวมตัวกันได้เป็นกลุ่มเล็กๆ เป็นการส่งสัญญาณว่าจะกลับไปสู่ภาวะปกติเหมือนในช่วงกลางของการระบาดในฤดูร้อนปีที่แล้ว
เป้าหมายใหม่ของไบเดนมีขึ้นเนื่องจากรัฐบาลประสบปัญหามากขึ้นกับประชาชนที่ลังเลเกี่ยวกับวัคซีน และไม่กล้าฉีดวัคซีน
“ตอนนี้เรามีซัพพลายวัคซีนเพียงพอ เรามุ่งเน้นให้ชาวอเมริกันมารับวัคซีนมากขึ้น” ไบเดนกล่าวกับสื่อที่ทำเนียบขาวขณะประกาศเป้าหมายใหม่ของเขา
“หากเราประสบความสำเร็จ ชาวอเมริกันจะผ่านก้าวสำคัญเพื่อกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ”
ทั้งนี้ เป้าหมายใหม่ของไบเดนคือทำให้ชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ 160 ล้านคนฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ภายในวันที่ 4 ก.ค.
เจ้าหน้าที่รัฐบาลคนหนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในเวลานี้ มีชาวอเมริกัน 105 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนครบสองเข็มแล้ว และกว่า 56% เป็นประชากรผู้ใหญ่ และมี 147 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้ว
“ มีคนในวัยที่อายุน้อยลงมาคือ 20 -30 ปีกว่าที่เชื่อว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องรับวัควีน แต่ผมอยากชี้แจงให้ชัดเจนว่า คุณจำเป็นต้องรับวัคซีน” ไบเดนระบุ
เป้าหมายของผู้นำสหรัฐฯจะส่งผลให้ประมาณครึ่งหนึ่งของประชากรในสหรัฐฯรับวัคซีนครบภายในต้นเดือนมิ.ย.นี้
ทางการสหรัฐฯเร่งกระจายและฉีดวัคซีนเมื่อวัคซีนแต่ละตัวได้รับอนุมัติขึ้นทะเบียนจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA)
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของไบเดน รัฐบาลสหรัฐฯจะเร่งทำงานเพื่อทำให้วัคซีนเข้าถึงประชาชนได้ง่ายขึ้น ด้วยการกำหนดให้ร้านขายยาหลายพันร้านเป็นจุดลงทะเบียนนัดฉีดวัคซีนของลูกค้าที่ใช้บริการ และให้สำนักจัดการภัยฉุกเฉินกลาง (Fema) ช่วยสนับสนุนในการจัดตั้งคลินิกชั่วคราวเพื่อฉีดวัคซีนให้มากขึ้น จากแถลงการณ์ของทำเนีบขาว