อียูตั้งเป้าเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติซัมเมอร์นี้
บรัสเซลส์ – หน่วยงานบริหารสูงสุดของสหภาพยุโรปแนะนำให้มีการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มการเดินทางเพื่อป้องกันโควิด-19 ลงในเดือนมิ.ย. เพื่อให้นักเดินทางต่างชาติเข้าอียูได้ โดยหวังที่จะกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในฤดูร้อนนี้
ภายใต้มาตรการคุมเข้มในปัจจุบัน ประชาชนจาก 7 ประเทศ รวมถึงออสเตรเลียและสิงคโปร์ สามารถเดินทางเข้าอียูได้ในช่วงวันหยุด โดยไม่คำนึงถึงว่าพวกเขาฉีดวัคซีนหรือยัง แต่มุ่งเน้นที่การตรวจหาเชื้อโควิด-19 หรือการกักตัว
โดยข้อเสนอใหม่จากคณะกรรมาธิการยุโรปในวันที่ 3 พ.ค. ซึ่งยังต้องผ่านความเห็นชอบจาก 27 ประเทศสมาชิกก่อน จะอนุญาตให้พลเมืองต่างชาติ และผู้ทีมาจากประเทศที่มี “สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสอยู่ในเกณฑ์ดี” เข้าอียูได้
“ ถึงเวลาฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และความสัมพันธ์ข้ามพรมแดนให้มีความปลอดภัย” เออร์ซูลา วอน เดอ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปทวีตบนทวิตเตอร์
ประชาชนที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร รัสเซียและประเทศอื่นๆจำนวนหนึ่งจะเข้าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด อ้างอิงจากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC)
“เราอยากให้เรื่องนี้แล้วเสร็จก่อนที่จะเริ่มต้นการเดินทางช่วงฤดูร้อน” อียูระบุ
ประเทศสมาชิกอียูมีกำหนดเริ่มพูดคุยเี่ยวกับข้อเสนอนี้ในวันที่ 4 พ.ค. และหวังว่าจะมีการอนุมัติในเดือนนี้
มาตรการคุมเข้มการเดินทางเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมในอียู ซึ่งประสบความยากลำบากในการตกลงมาตรการรับมือกับโควิด-19 ร่วมกัน
หากข้อเสนอผ่านความเห็นชอบ คาดการณ์ว่าประเทศสมาชิกอียูจะปฏิบัติตาม ( แต่ไม่ได้บังคับเป็นกฎหมาย ) ข้อตกลงร่วมใหม่ โดยประเทศกรีซ ได้ตกลงแล้วว่าจะต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วจากอิสราเอล
โดยมาตรการอื่นๆในการส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อนนี้ รวมถึงหน่วยงานลงทะเบียนส่วนกลางของอียูที่อนุญาตให้มีการเดินทางอย่างเสรีสำหรับพลเมืองในอียูที่มีเอกสาร Green Certificate แสดงว่า ฉีดวัคซีนแล้ว , มีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ หรือมีภูมิคุ้มกันหลังจากรักษาหายแล้ว
“ Green Certificate สำหรับรัฐบาลเบลเยียม นับเป็นหนึ่งในส่วนประกอบที่จะทำให้เรากลับไปสู่ความเป็นปกติให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” นายกรัฐมนตรี ซาเวียร์ เบทเทล ระบุในความเห็นเมื่อวันที่ 3 พ.ค.
คณะกรรมาธิการแนะนำให้ประชาชนได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ที่อียูรับรองขึ้นทะเบียนเพื่อที่จะสามารถเดินทางเข้าอียูได้ และระบุว่าอาจมีการขึ้นทะเบียนวัคซีนเพิ่ม หากผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO)
ทั้งนี้ องค์การยาแห่งยุโรปได้รับรองวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ , โมเดอร์นา , จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และแอสตราเซเนกาเพื่อการใช้ในอียู
ทาง WHO ก็อนุมัติรับรองวัคซีนเหล่านี้และคาดการณ์ว่าจะตัดสินใจเรื่องการใช้วัคซีนของจีนอีกสองตัวในสัปดาห์นี้ โดยทั้งสองหน่วยงานกำลังพิจารณาวัคซีนสปุดนิก วี ของรัสเซียด้วย
เพื่อจำกัดความเสี่ยงที่จะนำไวรัสกลายพันธุ์ใหม่เข้าประเทศ คณะกรรมาธิการยังเสนอมาตรการ ‘เบรกฉุกเฉิน’ ที่จะทำให้มีการปรับเปลี่ยนเป็นมาตรการคุมเข้มได้อย่างรวดเร็วกับนักเดินทางจากประเทศที่มีสถานการณ์แย่ลงอย่างชัดเจน