สหรัฐฯและเกาหลีใต้ร่วมซ้อมรบ
สหรัฐฯและเกาหลีใต้เตรียมพร้อมในการร่วมซ้อมรบประจำปี สร้างความไม่พอใจให้กับเกาหลีเหนือ ที่ก่อนหน้านี้พยายามจะเตือนให้ทั้งสองประเทศยกเลิกการซ้อมรบในครั้งนี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกาหลีเหนือตัดสินใจยับยั้งแผนการที่จะส่งจรวดขีปนาวุธไปบุกโจมตีเกาะกวม ซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐฯในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยระบุว่าจะเฝ้าจับตามองท่าทีของสหรัฐฯต่อไปก่อน
นอกจากนี้ ทางเกาหลีเหนือยังได้ประณามการร่วมซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีใต้ว่าเป็นการเติมน้ำมันราดไปในกองไฟ
โดยทางวอชิงตันอธิบายว่า เป็นการซ้อมรบป้องกันประเทศตามปกติ แต่ทางเกาหลีเหนือมองว่าเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับการถูกโจมตี
อย่างไรก็ตาม Joseph Dunford ประธานของหัวหน้าทีมร่วมซ้อมรบกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การซ้อมรบของทางกองทัพไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาในระดับใด และ Ulchi-Freedom Guardian (UFG) จะดำเนินไปตามกำหนดการเดิม โดยจะมีกำลังพลของสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับการซ้อมรบครั้งนี้ประมาณ 17,500 นาย ส่วนใหญ่อยู่ในส่วนคอมพิวเตอร์จำลองเหตุการณ์เสมือนจริงคู่ไปกับการซ้อมรบ โดยปฏิบัติการครั้งนี้จะกินระยะเวลานาน 10 วัน
แต่หลังจากคำขู่ของเกาหลีเหนือที่มีกับเกาะกวม และสงครามวาทกรรมอันดุเดือดของผู้นำทั้งสองที่มีต่อการยิงทดสอบจรวดขีปนาวุธซ้ำๆหลายครั้งของเกาหลีเหนือ นักวิเคราะห์เตือนว่า การร่วมซ้อมรบครั้งนี้อาจเป็นการยั่วยุในช่วงเวลาที่อ่อนไหว
ทั้งนี้ สหรัฐฯและเกาหลีใต้มีการร่วมซ้อมรบ 2 ชุดทุกปีที่เกี่ยวข้องกับกำลังทหารจำนวนมากและอุปกรณ์อาวุธของกองทัพ โดยปฏิบัติการ Foal Eagle/Key Resolve จะมีขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ ขณะที่ Ulchi-Freedom Guardian (UFG) จะจัดขึ้นในฤดูใบไม้ร่วง
โดยทั้งสองปฏิบัติการจะเป็นการร่วมซ้อมรบของกำลังพลทั้งบนบก ทางทะเลและทางอากาศ รวมทั้งคอมพิวเตอร์เสมือนจริงซึ่งจัดขึ้นในเกาหลีใต้ นอกจากนี้ยังมีการซ้อมรบในการรับมือกับภัยก่อการร้ายและการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในช่วงปีนี้ด้วย
มีรายงานว่า ทางกองทัพเกาหลีใต้จะใช้กำลังทหารประมาณ 50,000 นาย ขณะที่ทางกองทัพสหรัฐฯส่งทหารมาประมาณ 25,000 – 30,000 นาย
สหรัฐฯและเกาหลีใต้ยืนยันว่า การซ้อมรบประจำปีเป็นไปเพื่อการป้องกันประเทศเท่านั้น และเป็นความจำเป็นที่จะต้องเสริมความพร้อมของทั้งสองกองทัพให้แข็งแกร่งในกรณีที่ถูกโจมตีจากนอกประเทศ.