สหรัฐฯบริจาควัคซีนแอสตราเซเนกา 60 ล้านโดส
สหรัฐฯประกาศแผนการจะบริจาควัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกาที่มีอยู่ให้กับประเทศอื่นๆ เนื่องจากมีแรงกดดันมากขึ้นกับรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดนให้สนับสนุนความเท่าเทียมของวัคซีนทั่วโลก
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ทำเนียบขาวระบุว่า จะสามารถส่งวัคซีนของบ.แอสตราเซเนกาไปให้ประเทศอื่นๆได้ในช่วงไม่กี่เดือนนี้ แต่ไม่ได้ชี้แจงว่าจะจัดส่งให้ประเทศไหนบ้าง
“ ปัจจุบัน เรามีวัคซีนแอสตราเซเนกา 0 โดส” เจน พีซาคี โฆษกทำเนียบขาวระบุ โดยชี้ว่า หน่วยงานที่กำกับดูแลในสหรัฐฯ ยังขอเวลาพิจารณาคุณภาพของวัคซีนที่ผลิตแล้ว
องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ยังไม่ได้อนุมัติรับรองวัคซีนของแอสตราเซเนกาเพื่อใช้ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 และผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก
“การตัดสินใจบริจาควัคซีนแอสตราเซเนกาของสหรัฐฯ เป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ทั่วโลกเข้าถึงวัคซีนได้อย่างเท่าเทียม” ดร.แคร์รี เทเชอร์ ผอ.โครงการ MSF-USA ระบุในแถลงการณ์
“ การนำเอาวัคซีน 60 ล้านโดสที่มีอยู่และส่งไปประเทศต่างๆเร็วที่สุดจะช่วยปกป้อง 30 ล้านชีวิตไม่ให้ติดเชื้อโควิด-19”
“แต่นี่เป็นเพียงมาตรการเดียวที่รัฐบาลสหรัฐฯทำ สหรัฐฯควรแจกจ่ายวัคซีนส่วนเกินทั้งหมดที่มีอยู่ ไม่เพียงแต่ของแอสตราเซเนกาเท่านั้น ให้กับโครงการ COVAX และหนุนการผลิตทั่วโลก เพื่อให้มีการผลิตวัคซีนมากขึ้นในหลายประเทศ”
โฆษกพีซาคีระบุว่า จะสามารถเคลียร์วัคซีนของแอสตราเซเนกาจำนวน 10 ล้านโดสเพื่อจัดส่งได้ในไม่กี่สัปดาห์นี้ ขณะที่กำลังผลิตวัคซีนอยู่ประมาณ 50 ล้านโดส และสามารถจัดส่งได้ในเดือนพ.ค.และมิ.ย.
เธอเสริมว่า รัฐบาลสหรัฐฯยังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจว่าจะกระจานส่งไปที่ไหนบ้าง “เราจะพิจารณาทางเลือกจากประเทศพันธมิตรของเรา และแน่นอนว่า มีหลายประเทศที่มีความสัมพันธ์โดยตรง”
คำประกาศของทำเนียบขาวมีขึ้นเนื่องจากสหรัฐฯถูกกดดันมากขึ้นให้แบ่งปันวัคซีนต้านโควิด-19 โดยเฉพาะกับประเทศที่กำลังเผชิญวิกฤตในขณะนี้อย่างอินเดีย รวมถึงเพิกถอนกฎระเบียบด้านทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อทำให้หลายประเทศสามารถผลิตวัคซีนได้มากขึ้น
ในจดหมายเปิดผนึกช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา กลุ่มอดีตผู้นำและเจ้าของรางวัลโนเบลขอให้ไบเดน “ แสดงออกถึงความเป็นเอกภาพ ความร่วมมือ และความเป็นผู้นำคนใหม่” และเพิกถอนสิทธิบัตรวัคซีน
จนถึงตอนนี้ สหรัฐฯกระจายฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ประชาชนไปแล้วกว่า 230 ล้านโดส เป็นวัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์ , โมเดอร์นา และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน โดยชาวอเมริกันที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเกือบ 54% ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส จากข้อมูลของ CDC