คาเธ่ย์ขาดทุนหนักครึ่งปีแรก
คาเธ่ย์ แปซิฟิก สายการบินเรือธงของฮ่องกง รายงานเมื่อวันที่ 16 ส.ค.เกี่ยวกับรายได้ที่ขาดทุนมากถึง 2,050 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงในครึ่งปีแรก หลังจากที่สายการบินต้องประสบปัญหาในการแข่งขันกับคู่แข่งจำนวนมาก
ก่อนหน้านี้ในปี 2559 ทางคาเธ่ย์ขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี แต่ผลสรุปของครึ่งปี 2560 แรกนั้นออกมาเลวร้ายกว่าที่นักวิเคราะห์เคยคาดการณ์ไว้ โดยคาเธ่ย์ระบุว่า เป็นเพราะสายการบินราคาประหยัดสัญชาติจีนเข้ามามีส่วนในตลาดหุ้นมากยิ่งขึ้น
นักวิเคราะห์จากบลูมเบิร์กเคยคาดกาณ์ไว้ว่า ทางคาเธ่ย์จะขาดทุนราว 1,200 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงในช่วงครึ่งแรกของปี 2560
Chairman John Slosar บรรยายเกี่ยวกับผลสรุปรายได้ว่า “น่าผิดหวัง” และระบุว่าการแข่งขันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คาเธ่ย์ต้องขาดทุน
สายการบินอีกหลายแห่งอย่าง ไชน่า อีสเทิร์น และ ไชน่า เซาต์เทิร์น แอร์ไลน์ เปิดเส้นทางบินตรงไปยังยุโรป และสหรัฐฯ จากจีนแผ่นดินใหญ่ ในขณะที่สายการบินราคาประหยัดอย่างสปริง แอร์ไลน์ กำลังเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวภายในภูมิภาคเอง ทำให้สายการบินคาเธ่ย์ร่วงลงจากตำแหน่งสายการบินอันดับต้น ๆ ในภูมิภาค
นอกจากนี้คาเธ่ย์ยังสูญเสียนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักจำนวนมาก พร้อมแรงกดดันจากสายการบินคู่แข่งสัญชาติตะวันออกกลางซึ่งกำลังแผ่ขยายการให้บริการมายังภูมิภาคเอเชียมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยบริการระดับหรูหรา
ทั้งหมดนี้ทำให้สายการบินคาเธ่ย์ต้องขายตั๋วเครื่องบินคุณภาพดีในราคาโปรโมชั่นเพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อนเดินทางได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
สายการบินคาเธ่ย์ระบุว่า รายได้ของผู้โดยสารลดลงราว 4% โดยมีผู้โดยสารเฉลี่ยต่อไมล์ลดลง 5.2%
โดยค่าเชื้อเพลิงเครื่องบินนั้นมีราคาสูงขึ้น 12.7% จากเดิม 13,260 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงในปีก่อนเป็น 14,940 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงในปีนี้
สะท้อนให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายและการใช้เชื้อเพลิงที่มากขึ้น แม้ว่าจะมีการป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมันให้ลดน้อยลงแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ การป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน คือการที่สายการบินทำการจำกัดราคาของเชื้อเพลิงไว้ล่วงหน้าเป็นระยะเวลาหนึ่ง.
หมายเหตุ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง = 4.31 บาท /18 ส.ค.2560