อินเดียติดเชื้อโควิดรายวันพุ่งทุบสถิติโลก
บังกาลอร์ : เมื่อวันที่ 22 เม.ย. อินเดียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากโควิด-19 พุ่งสูงสุดทุบสถิติโลกถึง 314,835 รายในวันเดียว จากการแพร่ระบาดในระลอก 2 ก่อให้เกิดความกังวลถึงศักยภาพของระบบสาธารณสุขของประเทศที่อาจรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายไม่ไหว
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วพื้นที่ทางเหนือและตะวันตกของอินเดีย รวมทั้งเมืองหลวงอย่างกรุงนิวเดลีระบุว่า พวกเขาอยู่ในวิกฤต โดยโรงพยาบาลส่วนใหญ่มีผู้ป่วยเต็มหมดและขาดแคลนออกซิเจน
แพทย์ในหลายพื้นที่แนะนำให้ผู้ป่วยอยู่บ้าน ขณะที่ฌาปนกิจสถานในเมืองทางตะวันออกอย่างเมืองมูซาฟาเพอระบุว่า มีศพจำนวนมากและครอบครัวที่เศร้าโศกต้องรอคอยคิวเผาศพผู้เป็นที่รัก
“ตอนนี้ไม่มีเตียง ไม่มีออกซิเจน ทุกอย่างจำกัดหมด” ชาฮิด จามีล นักไวรัสวิทยาและผอ.Trivedhi School of Bioscience ที่มหาวิทยาลัยอาโชคากล่าวกับสื่อรอยเตอร์
“ โครงสร้างพื้นฐานกำลังพัง”
ขณะที่กรุติกา คัปปาลลี ผศ.ฝ่ายโรคติดต่อ มหาวิทยาลัยแพทย์เซาธ์ แคโรไลนาในสหรัฐฯ ระบุบนทวิตเตอร์ว่าวิกฤตครั้งนี้อาจทำให้ระบบการแพทย์อินเดียล่มสลาย
ก่อนหน้านี้ เจ้าของสถิติโลกของตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุดในวันเดียวคือสหรัฐฯ ที่มีตัวเลขอยู่ที่ 297,430 รายในเดือนม.ค. และหลังจากนั้น จำนวนผู้ติดเชื้อก็ลดลงอย่างชัดเจน
จนถึงตอนนี้ อินเดียมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 15.93 ล้านราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2,104 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ที่ 184,567 ราย จากข่อมูลล่าสุดของกระทรวงสาธารณสุข
รมว.สาธารณสุข สัตเยนดาร์ จาอิน ระบุว่า โรงพยาบาลขาดแคลนเตียงห้องไอซียู ขณะที่มีความต้องการเพิ่มอีกประมาณ 5,000 เตียง บางโรงพยาบาลมีออกซิเจนเหลือพอใช้อีก 10 ชม. และแห่งอื่นๆมีพอใช้อีก 6 ชม.
“เราไม่อาจเรียกสถานการณ์นี้ว่าเป็นสถานการณ์สบายๆได้ ” เขากล่าวกับสื่อ
อินเดียเริ่มโครงการฉีดวัคซีน แต่ผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วมีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งประเทศ
ทางการประกาศว่า จะมีวัคซีนเพียงพอสำหรับประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปตั้งแต่ 1 พ.ค.เป็นต้นไป แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า อินเดียจะไม่มีวัคซีนเพียงพอสำหรับประชากร 600 ล้านคนที่มีสิทธิได้รับวัคซีน
ผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขระบุว่า อินเดียการ์ดตกในช่วงฤดูหนาวปีที่แล้วที่ดูเหมือนจะควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ ที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันเฉลี่ยประมาณ 10,000 ราย และยกเลิกมาตรการคุมเข้มทำให้มีการรวมตัวกันของประชาชนเป็นจำนวนมาก
ผู้เชี่ยวชาญบางคนระบุว่า มีการกลายพันธุ์ของไวรัสขึ้นอีกในอินเดีย ทำให้การระบาดในระลอกสองรวดเร็วและรุนแรงมากขึ้น แต่ประชาชนจำนวนมากตำหนิบรรดานักการเมืองมากกว่า
รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีสั่งล็อกดาวน์ในปีที่แล้ว ตั้งแต่ช่วงต้นของการระบาด แต่กังวลเรื่องเศรษฐกิจที่ถดถอยจากมาตรการคุมเข้ม ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลถูกวิจารณ์หนักเนื่องจากมีการหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น และยังอนุญาตให้มีการจัดพิธีกรรมทางศาสนาที่มีคนนับล้านเข้าร่วม
ในสัปดาห์นี้ นายกฯโมดีขอให้รัฐบาลท้องถิ่นในแต่ละรัฐใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นมาตรการสุดท้าย เขาขอให้ประชาชนอยู่บ้าน และระบุว่ารัฐบาลกำลังทำงานเพื่อเพิ่มจำนวนออกซิเจนและวัคซีนให้มากขึ้น
อังเจลา ราสมุสเซน นักไวรัสวิทยาที่ศูนย์สุขภาพและความมั่นคงทางวิทยาศาสตร์ทั่วโลกประจำมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ระบุว่าสถานการณ์ในอินเดียตอนนี้ “น่าเศร้าและเลวร้าย”
“ นี่เป็นผลจากการตัดสินใจนโยบายที่ย่ำแย่ คำแนะนำที่เลวร้ายที่ทำให้เกิดการตัดสินใจเช่นนั้น การเมืองทั่วโลกและการเมืองในประเทศ และปัจจัยตัวแปรอื่นๆ”