ภาวะฉุกเฉินอีกรอบในโตเกียว/โอซาก้า เริ่ม 25 เม.ย.
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. เจ้าหน้าที่อาวุโสระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นพิจารณาเพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินอีกรอบในกรุงโตเกียว จังหวัดโอซาก้าและเฮียวโงะตั้งแต่ 25 เม.ย. – 11 พ.ค. เป็นความพยายามที่จะควบคุมตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งทะยานขึ้น
รัฐบาลญี่ปุ่นยกระดับการเตรียมพร้อมในวันเดียวกันเพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินในจังหวัดเหล่านี้ ด้วยมาตรการคุมเข้มมากขึ้น เช่น การปิดห้างสรรพสินค้า โดยคาดการณ์ว่าจะมีการบังคับใช้ในช่วงวันหยุดยาวโกลเด้นวีค
นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ สึงะมีกำหนดจะฟันธงในการตัดสินใจนี้ในการประชุมวันที่ 23 เม.ย. เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้น กดดันระบบการแพทย์ และอยู่ในช่วงนับถอยหลังเข้าสู่การจัดการแข่งขันกีฬาโตเกียวโอลิมปิก
คาดการณ์ว่า ประกาศภาวะฉุกเฉินจะมีผลบังคับใช้ประมาณ 3 สัปดาห์จนถึงกลางเดือนพ.ค. โดยหนึ่งในเจ้าหน้าที่รัฐบาลระบุว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องหยุดไม่ให้ประชาชนเดินทางในช่วงวันหยุดยาวที่จะถึงนี้ ซึ่งตามปกติแล้ว จะเป็นช่วงเวลาที่มีประชาชนเดินทางพลุกพล่านมากที่สุดของปี
ฮิโรฟูมิ โยชิมูระ ผู้ว่าราชการจ.โอซาก้าเรียกร้องรัฐบาลว่าอย่าเสียเวลาอีกต่อไป โดยระบุว่า ควรเริ่มภาวะฉุกเฉินในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยจ.โอซาก้า ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 ในประเทศ รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 1,242 รายในวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา
กรุงโตเกียวและโอซาก้ามีแผนจะขอให้สถานที่เพื่อการพาณิชย์รายใหญ่ เช่น ห้างสรรพสินค้า และสวนสนุกปิดทำการชั่วคราว
ผู้ว่าฯโยชิมุระกล่าวว่า เขาจะขอให้ร้านอาหารและบาร์หยุดเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และปิดในวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งเป็นมาตรการที่เข้มงวดกว่าในปัจจุบันที่ขอให้ร้านอาหารปิดในเวลา 08.00 น. เขายังได้ระบุว่า จะยกเลิกการแข่งขันกีฬา หรือจัดโดยไม่มีผู้ชม
แหล่งข่าวระบุว่า ผู้ว่าการกรุงโตเกียว ยูริโกะ โคอิเกะ เองก็จะขอความร่วมมือร้านอาหารและบาร์ไม่ให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลากลางวัน
ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทั่วประเทศแม้จะมีการประกาศมาตรการกึ่งภาวะฉุกเฉินที่ครอบคลุมพื้นที่ 10 จังหวัด รวมทั้งกรุงโตเกียวและโอซาก้า
กรุงโตเกียวมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 861 รายในวันที่ 22 เม.ย. เป็นสองวันต่อเนื่องที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 800 ราย โดยทั่วประเทศญี่ปุ่น มีผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งสูงเกิน 5,000 รายเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน
นายกฯ สึงะระบุว่า การประกาศภาวะฉุกเฉิน ( ซึ่งจะเป็นครั้งที่ 3 แล้ว หลังจากเคยประกาศใช้ในเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว และเดือนม.ค.ปีนี้ ) จะไม่ส่งผลกระทบกับการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก และพาราลิมปิก โดยย้ำว่ารัฐบาลจะพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อให้แน่ใจว่านักกีฬาและเจ้าหน้าที่มีความปลอดภัย
“หากจะมีการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกในเดือนก.ค. ฉันคิดว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อควรต้องนิ่งคงที่ภายในปลายเดือนพ.ค. หรือต้นเดือนมิ.ย.” ฮารุกะ ซาคาโมโตะ นักวิจัยสาธารณสุขประจำม.โตเกียวกล่าว “ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องเข้าแทรกแซงมากขึ้นตั้งแต่ช่วงแรก”
รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นโต้แย้งกันถึงมาตรการคุมเข้มภายใต้ภาวะฉุกเฉินนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาด กิจกรรมที่ถูกคุมเข้มอาจทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าลงและส่งผลกระทบต่อธุรกิจ
ทั้งนี้ หากมีการประกาศภาวะฉุกเฉินในจ.เกียวโตด้วย จะครอบคุลมเกือบ 1 ใน 4 ของจำนวนประชากร 126 ล้านคนของญี่ปุ่น