ซีอีโอกูเกิลยกเลิกประชุมครั้งใหญ่
นายสุนทร พิชัย ซีอีโอของกูเกิลยกเลิกกำหนดการประชุมครั้งใหญ่ของบริษัท เพียงไม่นานก่อนที่จะเริ่มประชุม เพื่อเป็นการคลายความกังวลเกี่ยวกับข้อเขียนที่สร้างความขัดแย้งของอดีตพนักงานที่ชื่อ James Damore
ในอีเมลถึงพนักงาน ซีอีโอพิชัยได้อธิบายถึงคำถามจากพนักงานที่รั่วออกมา และในบางกรณี ข้อมูลเฉพาะเจาะจงของพนักงานก็ถูกเปิดเผยด้วย ทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อการถูกคุกคามและทำร้าย ดังนั้น แทนที่จะเป็นการประชุมขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นการไลฟ์สตรีมถึงพนักงานกูเกิล 60,000 คนทั่วโลก จึงเปลี่ยนเป็นการประชุมในกลุ่มขนาดเล็กลงในอนาคต
“เราเคยหวังที่จะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแบบเปิดกว้างในวันนี้อย่างที่เราทำเพื่อทำให้เรารวมกันเป็นหนึ่งเดียวและก้าวไปข้างหน้า แต่คำถามจากดอรีดูเหมือนจะถูกเปิดเผยออกมาสู่ภายนอกในตอนบ่ายนี้ และในบางเว็บไซต์ ชาวกูเกิลกำลังถูกระบุชื่อเป็นส่วนตัว” เขาอธิบายในอีเมล
เขายังกล่าวในอีเมลว่า ขณะที่ชาวกูเกิลส่วนใหญ่สนับสนุนการตัดสินใจ บางคนหวังให้บริษัททำมากกว่านี้ เขากล่าวว่าบางคนก็กังวลเกี่ยวกับเสรีภาพของการพูดในที่ทำงาน
“เสียงและความเห็นของพวกคุณมีความหมายและผมต้องการที่จะรับฟัง”
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน มีหลายคำถามที่ถูกโพสต์ในบอร์ดสื่อสารภายในของกูเกิลรวมถึงกำหนดการประชุมในวันที่ 10 ส.ค.ด้วย
“เราจะได้อัพเดทถึงกระบวนการที่ทำให้ข้อมูลพนักงานรั่วไหลบ้างไหม ?” พนักงานคนหนึ่งโพสต์ถาม
โดยเสริมว่าข้อมูลของพนักงานกูเกิลหลายคนรั่วไปอยู่ในมือของพวกขวาจัด ซึ่งทำให้มีการขู่เอาชีวิตจากจุดยืนที่แตกต่างกัน
“ฉันเป็นชาวกูเกิลหัวอนุรักษ์สายกลาง และรู้สึกกลัวที่จะแชร์ความเชื่อของฉันแล้ว ที่นี่มีคนรับฟังพวกลิเบอรัลมากกว่า อะไรคือความเป็นผู้นำที่จะช่วยให้ชาวกูเกิลแบบฉันรู้สึกว่าได้รับการเชื้อเชิญและได้รับการยอมรับ ไม่เพียงแค่ยอมอดทน หรือปลอดภัยจากม็อบที่โกรธเกรี้ยว?” พนักงานคนหนึ่งโพสต์คำถามไว้บนบอร์ด
ซีอีโอกูเกิล กล่าวว่าหลายส่วนของข้อความของนาย Damore ถือเป็นการละเมิดจรรยาบรรณของกูเกิล เขาได้ลดช่วงเวลาพักร้อนลงเพื่อเข้าร่วมประชุมในวันที่ 10 ส.ค.
“ชัดเจนว่ามีหลายประเด็นที่ต้องพูดคุยกันเป็นกลุ่ม ซึ่งรวมถึงเรื่องที่เราจะสร้างสิ่งแวดล้อมที่ครอบคลุมมากกว่านี้” เขาเขียนในอีเมลถึงพนักงานในวันที่ 8 ส.ค.
คำประกาศที่มีความยาว 3,000 คำของนาย Damore อ้างว่า ที่ผู้หญิงมีบทบาทน้อยในวงการเทคโนโลยีมาจากสาเหตุทางร่างกาย ซึ่งประเด็นนี้ก่อให้เกิดการพูดคุยถกเถียงแพร่กระจายในวงกว้างเกี่ยวกับปัญหาการเหยียดเพศในซิลิคอน วัลเลย์ รวมถึงสิ่งที่ยอมรับได้ และยอมรับไม่ได้ที่จะมีการดีเบตกันในที่ทำงาน.