เกาหลีเหนือเล็งถล่มฐานทัพสหรัฐฯ บนเกาะกวม
เกาหลีเหนือประกาศว่า กำลังพิจารณาที่จะยิงจรวดขีปนาวุธถล่มโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิกที่เกาะกวม
โดยสื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือรายงานโดยยกคำแถลงของกองทัพเกาหลีเหนือ ที่มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ขู่ว่าจะถล่มเกาหลีเหนือด้วยไฟและความเดือดดาล สำนักข่าวของเกาหลีเหนือที่เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลรายงานว่า เกาหลีเหนือมีแผนจะยิงจรวดพิสัยกลางถึงพิสัยไกลไปที่กวม ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานทัพทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ในมหาสมุทรแปซิฟิก ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติเพิ่งอนุมัติมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับเกาหลีเหนือ ซึ่งทางเปียงยางมองว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยของเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง และเตือนว่าสหรัฐฯจะต้องชดใช้กับสิ่งที่ทำ
เมื่อวันที่ 9 ส.ค.สำนักข่าว KCNA รายงานว่า เกาหลีเหนือกำลังพิจารณาอย่างรอบคอบในแผนปฏิบัติการโจมตีด้วยอาวุธในพื้นที่รอบๆกวม โดยจะใช้ขีปนาวุธพิสัยกลางถึงพิสัยไกลรุ่นฮวาซอง -12 ที่ผลิตในเกาหลีเหนือ ในคำแถลงการณ์ต่อสาธารณะ เอ็ดดี บาซา ผู้ว่าการของกวมกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีภัยคุกคามใดๆบนเกาะกวมและหมู่เกาะมาเรียนา แต่กวมเตรียมพร้อมเสมอสำหรับเหตุสุดวิสัยใดๆที่จะเกิดขึ้น คำแถลงของเกาหลีเหนือล่าสุดนับเป็นการยกระดับความร้อนแรงและความตึงเครียดระหว่างสองประเทศให้มีมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ทางเปียงยาง ซึ่งเคยมีการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์มาแล้ว 5 ครั้งได้ยิงทดสอบจรวดขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา และอ้างว่าสามารถที่จะยิงถล่มไปถึงสหรัฐฯได้
เมื่อวันที่ 8 ส.ค. สื่อในสหรัฐฯรายงานว่า เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการผลิตหัวรบนิวเคลียร์ขนาดเล็กที่สามารถบรรจุไว้ภายในจรวดขีปนาวุธได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันข่าวนี้ แต่นี่นับเป็นอุปสรรคสุดท้ายที่จะทำให้เกาหลีเหนือข้ามผ่านเป็นประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครองอย่างสมบูรณ์ที่สุด
สื่อ KCNA รายงานว่า เกาหลีเหนือจะเอาคืนสหรัฐฯและทำให้สหรัฐฯต้องชดใช้สำหรับการร่างมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ เนื่องจากเป็นการละเมิดอธิปไตยของเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง
ทั้งนี้ กวมถือเป็นเป็นดินแดนของสหรัฐฯ เป็นเกาะที่มีพื้นที่ 541 ตารางก.ม.ในมหาสมุทรแปซิฟิก อยู่ระหว่างฟิลิปปินส์และฮาวาย มีจำนวนประชากรประมาณ 163,000 คน โดยพื้นที่ของฐานทัพสหรัฐฯ มีสัดส่วนประมาณ 1 ใน 4 ของเกาะและมีกำลังทหารประจำการที่ฐานทัพแห่งนี้ประมาณ 6,000 นาย และมีแผนที่จะเพิ่มกำลังทหารประจำการที่นี่อีกนับพันนาย.