อินเดียติดเชื้อรายวันพุ่งเกินแสนอีก
อินเดียรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 เกิน 100,000 รายในรอบ 24 ชม.เป็นครั้งที่ 3 ในสัปดาห์นี้ ในช่วงเวลาที่อินเดียเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชน
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. อินเดียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 126,789 ราย จากข้อมูลของรัฐบาล โดยกว่า 80% เป็นผู้ติดเชื้อจากสิบรัฐ รวมทั้งรัฐทางตะวันตกที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดอย่างรัฐมหาราษฏระ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองศูนย์กลางการเงินคือเมืองมุมไบ
ตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย. เป็นต้นมา อินเดียรายงานผู้ป่วยยืนยันจากโควิด-19 เพิ่มขึ้นกว่า 779,000 ราย โดยกว่าครึ่งของผู้ป่วยทั้งหมดเป็นผู้ป่วยในรัฐมหาราษฏระ
รัฐบาลรัฐมหาราษฏระยกระดับมาตรการคุมเข้ม รวมทั้งมาตรการเคอร์ฟิวในเวลากลางคืน ซึ่งมีเฉพาะธุรกิจสำคัญที่ยังเปิดทำการได้ รัฐอื่นๆก็พยายามเข้มงวดมากขึ้นเนื่องจากมีความกังวลเรื่องการขาดแคลนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาลและแพทย์
มีการเร่งฉีดวัคซีนในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้ หลังจากโครงการฉีดวัคซีนของอินเดียเริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนม.ค. เริ่มตั้งแต่เดือนเม.ย. ผู้ที่มีอายุเกิน 45 ปีมีสิทธิได้รับวัคซีน จากข้อมูลของรัฐบาล และอินเดียมีการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 90 ล้านโดส
แต่สื่อรายงานสัปดาห์นี้ว่า หลายรัฐในอินเดีย รวมทั้งรัฐมหาราษฏระ เตือนว่าวัคซีนกำลังจะหมดในช่วงเวลาที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
รัฐบาลอินเดียตอบโต้โดยการกล่าวหาบางรัฐ รวมทั้งรัฐมหาราษฏระ ว่าออกคำเตือนมาเพื่อพยายามกลบเกลื่อนข่าวที่รัฐล้มเหลวในการควบคุมการแพร่ระบาด
“ เราจับตาดูซัพพลายวัคซีนจากข้อมูลที่เกิดขึ้นจริง และมีการแจ้งข้อมูลกับรัฐบาลรัฐต่างๆเป็นประจำ การกล่าวหาว่าขาดแคลนวัคซีนเป็นเรื่องที่ไม่มีมูล”
จากข้อมูลของราดีพ กูเลเรีย ผอ. All India Institute of Medical Science และสมาชิกทีมรับมือโควิด-19 ของรัฐบาล ระบุว่า อินเดียผลิตวัคซีนได้เพียงพอต่อเดือนเพื่อฉีดให้ผู้มีอายุเกิน 45 ปีขึ้นไป
แต่สถาบันเซรุ่มของอินเดีย ซึ่งผลิตวัคซีน 1 ใน 2 ตัวที่ได้รับอนุมัติขึ้นทะเบียนจากรัฐบาลคือ แอสตราเซเนกา หรือที่เรียกกันในอินเดียว่าโควิชีลด์ ให้ความเห็นที่แตกต่างออกไป
โดยอดาร์ พูนาวัลลา ผอ.สถาบันเซรุ่มกล่าวกับสื่อว่า กำลังการผลิตของบริษัทนั้น “ตึงเครียดมาก” เขาระบุว่า ผู้ผลิตวัคซีนจำเป็นต้องใช้งบประมาณ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อเร่งการผลิตภายในเดือนมิ.ย.
เขาเปิดเผยว่าทางบ.แอสตราเซเนกาส่งหมายเตือนมาที่สถาบันว่าล่าช้าในการส่งออกวัคซีน ในเดือนก.พ.พูนาวัลลาระบุว่า บริษัทของเขาจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับความต้องการใช้วัคซีนในอินเดียเป็นอันดับแรก และขอให้รัฐบาลต่างชาติอดทนรอ
กูเลเรียเสริมว่า อินเดียจะอนุมัติขึ้นทะเบียนวัคซีนต้านโควิด-19 ตัวที่ 3 ที่รัสเซียพัฒนาคือวัคซีนสปุตนิกไฟว์ ซึ่งจะผลิตโดยบริษัทยา Dr Reddy’s Laboratories