ฮ่องกงสั่งปิดหาดนับสิบหลังน้ำมันรั่ว
ชายหาดในฮ่องกงที่เต็มไปด้วยผู้คนเกือบทุกสุดสัปดาห์หลายแห่ง ถูกสั่งปิดเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุเรือชนกันในน่านน้ำจีนแผ่นดินใหญ่ จนมีน้ำมันปาล์มรั่วไหลมาจนถึงชายหาดฮ่องกง
ภาพถ่ายเผยให้เห็นกลุ่มสารปนเปื้อนรูปร่างคล้ายโฟมจับตัวกันเป็นก้อนอยู่ตามแนวชายหาด ขณะเดียวกัน หมู่บ้านชาวประมงที่โด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยวเองก็มีน้ำมันและเศษขยะปกคลุมและปนเปื้อนอยู่เช่นกัน ฮ่องกงประกอบไปด้วยหมู่เกาะมากกว่า 200 เกาะ รวมถึงชายหาดที่ได้รับความนิยมอีกหลายแห่ง แต่ในเวลาเดียวกันก็สร้างความกังวลให้กับผู้คนเกี่ยวกับมลพิษและเศษขยะที่จะทำลายสภาพชายฝั่งให้แย่ลง
อ้างอิงจากแหล่งข่าว ระบุว่า เมื่อเช้าวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลทำการปิดชายหาด 6 แห่งทางตอนใต้ของฮ่องกง และชักธงเตือนภัยหลังพบ “สารมัน สีขาว” ในน้ำทะเลและบนหาดทราย
นอกจากนี้ยังมีหาดทางใต้ของเกาะฮ่องกงหลักที่ถูกปิดเพิ่มอีก 4 แห่ง หลังเจ้าหน้าที่ดูแลหาดพบ “สารลักษณะเป็นเม็ด สีขาว” บนชายฝั่งแม้จะมีปริมาณของเศษขยะและสารแปลกปลอมบนชายหาดแต่ละแห่งเพิ่มมากขึ้น ทั้งที่พัดมาจากทางฝั่งจีนแผ่นดินใหญ่ และบริเวณอื่น ๆ ในฮ่องกง แต่ผู้อยู่อาศัยในบริเวณที่มีการรั่วไหลระบุว่า ยังไม่มีใครเห็นไขของน้ำมันที่จับตัวกันเป็นก้อนเลย
สำนักข่าว South China Morning Post ยกคำพูดของผู้อยู่อาศัยบนเกาะ Lamma มานำเสนอว่า “มันยังคงมีรูปลักษณ์เป็นฟองเหมือนก่อนหน้านี้” โดยเสริมอีกว่า สารปนเปื้อนดังกล่าวกำลังเกลื่อนไปทั่วแนวชายหาดตามแนวเส้นน้ำขึ้นอีกด้วย
สำนักข่าวแหล่งอื่น ๆ เองก็ได้นำเสนอข่าวและเอ่ยถึงกลิ่นเหม็นหืนที่มาจากทางชายหาดภายหลังอีกด้วยต้นเหตุการรั่วไหลในครั้งนี้มาจากเรือ 2 ลำที่พุ่งชนกันใกล้กับปากแม่น้ำเพิร์ลทางตอนใต้ของจีนเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา
Gary Stokes จากสมาคมอนุรักษ์ธรรมชาติซีเชปเพิร์ดระบุว่า เหตุการณ์น้ำมันรั่วถือว่าเกิดขึ้นได้บ่อยในฮ่องกง โดยน้ำมันปาล์มสำหรับรับประทานอย่างที่เกิดเหตุในครั้งนี้ อาจสร้างผลกระทบอันตรายได้หากมีการดูดซึมรับสารพิษในทะเล.