ติดเชื้อเพิ่มอีกใน 21 รัฐของสหรัฐฯ
แม้อัตราการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ในสหรัฐฯจะเร่งเร็วขึ้น แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่กำลังเพิ่มขึ้นใน 21 รัฐ และเป็นการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่มากขึ้น ขณะที่บรรดาผู้ว่าการรัฐผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มธุรกิจ ทั้งร้านอาหาร บาร์ และฟิตเนส
ทางการสาธารณสุขเตือนว่า ขณะที่ประชากรในสหรัฐฯ ประมาณ 2.5 ล้านคนทั่วประเทศเข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ทุกวัน แต่ระดับการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในเดือนนี้ และหลายรัฐล้มเหลวในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน
โดยตัวเลขการติดเชื้อเฉลี่ยในรอบ 7 วันอยู่ที่ 54,666 รายในวันที่ 19 มี.ค. หลังจากลดลงมาหลายสัปดาห์ จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์
ทั้งนี้ กว่า 541,000 รายในสหรัฐฯเสียชีวิตจากโควิด-19
ดร.แอนโธนี ฟาวซี ประธานที่ปรึกษาการแพทย์ประจำทำเนียบขาวเตือนในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ว่า สหรัฐฯไม่ควรประกาศชัยชนะจนกว่าระดับการติดเชื้อจะ “ลดลงมากกว่านี้” โดยโรเชล วาเลนสกี ผอ.ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคยังขอให้สหรัฐฯอย่าเพิ่งรีบเปิดประเทศเร็วเกินไป เพราะจะเป็นการบ่อนทำลายความก้าวหน้าของประเทศในการยุติการแพร่ระบาด
“ ความกังวลเกิดขึ้นทั่วประเทศ เนื่องจากมีหลายรัฐ หลายเมือง ที่กลับมาปฏิบัติตัวเหมือนก่อนเกิดโรคระบาด ทั้งการไม่สวมหน้ากากอนามัย การไม่ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข” ฟาวซีระบุในการแถลงข่าว
“ จึงเป็นเรื่องโชคไม่ดี แต่สำหรับผมไม่แปลกใจเลยที่เห็นคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นรายวันในหลายเมือง หลายรัฐ และหลายภูมิภาค แม้จะมีการกระจายวัคซีนได้มากขึ้นประมาณ 2 – 3 ล้านโดสต่อวันก็ตาม ” ฟาวซีกล่าว
ตัวเลขการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายรัฐ ทั้งรัฐอลาบามา คอนเนคติกัดต ฮาวาย ไอดาโฮ อิลลินอยส์ เมน แมรีแลนด์ แมสซาชูเซตส์ มินเนสโซตา มิสซูรี มอนทานา นิวแฮมป์เชอร์ นิวเจอร์ซีย์ นิวยอร์ก นอร์ธดาโกตา เพนซิลเวเนีย โรดไอส์แลนด์ เวอร์จิเนีย วอชิงตัน และเวสต์เวอร์จิเนีย
สาธารณสุขสหรัฐฯระบุว่า อัตราการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ตรวจพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร มีแนวโน้มคิดเป็น 30% ของการติดเชื้อโควิด-19 และอาจเป็นการติดเชื้อสูงสุดภายในสิ้นเดือนมี.ค. หรือในต้นเดือนเม.ย.
ไวรัสสายพันธุ์ใหม่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการติดเชื้อระลอกสามในยุโรป ทำให้หลายประเทศ ทั้งฝรั่งเศสและอิตาลีประกาศมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส