‘จอห์นสัน’ ฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกา
ลอนดอน – เมื่อวันที่ 19 มี.ค. นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันแห่งสหราชอาณาจักรได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทแอสตราเซเนกาและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด จากแถลงการณ์ของสำนักนายกฯ เป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มความเชื่อมั่นให้ประชาชนว่าวัคซีนมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
นายกฯจอห์นสันวัย 56 ปีขอให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 โดยอ้างอิงถึงข้อมูลจากหน่วยงานที่กำกับดูแลในสหราชอาณาจักรที่แสดงให้เห็นถึงประโยช์จากวัคซีนที่มีมากกว่าความเสี่ยง
หลายประเทศทั่วโลกระงับการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน หลังจากมีรายงานภาวะลิ่มเลือดอุดตันของผู้ที่ฉีดวัคซีนบางคน ผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขวิจารณ์ความเคลื่อนไหวนี้อย่างชัดเจน โดยชี้ว่ายังขาดข้อมูลที่ครบถ้วน ขณะที่นักวิเคราะห์แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของวัคซีนที่มีการฉีดอยู่ในช่วงเวลาที่โควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด
องค์การยาของสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรประบุว่า ไม่มีหลักฐานว่าวัคซีนเป็นสาเหตุให้เกิดลิ่มเลือด องค์การอนามัยโลกยังระบุว่า ประโยชน์ของวัคซีนจากออกซ์ฟอร์ด-แอสตราเซเนกามีมากกว่าความเสี่ยงและแนะนำให้ฉีดวัคซีนตัวนี้ต่อไปได้
ในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 18 มี.ค. จอห์นสันระบุว่า วัคซีนของออกซ์ฟอร์ด-แอสตราเซเนกามีความปลอดภัย แต่ “สิ่งที่ไม่ปลอดภัยคือการติดเชื้อโควิด ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงสำคัญที่เราต้องฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุดเมื่อถึงคิวของเรา”
ตัวเขาเองเคยเข้ารับการรักษาโควิด-19 ในโรงพยาบาลเมื่อเดือนเม.ย.ในปีที่แล้ว และอยู่ในห้องไอซียูหลายวัน
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่านายกรัฐมนตรีฌอง กัสแตกซ์ของฝรั่งเศสได้เข้ารับวัคซีนตัวนี้ในวันเดียวกับจอห์นสันเช่นกัน
เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลีและสเปน รวมถึงประเทศอื่นๆ ในยุโรประบุว่า จะกลับมาใช้วัคซีนตัวนี้เพื่อฉีดให้กับประชาชนอีกครั้ง หลังจากอ.ย.ของยุโรป หรือ EMA ประกาศว่าวัคซีนปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ขณะที่อินโดนีเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ชะลอการใช้วัคซีนตัวนี้ ก็ระบุเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ว่า ได้อนุมัติรับรองวัคซีนแล้ว
อย่างไรก็ตาม นอร์เวย์ สวีเดน และเดนมาร์กระบุว่า จะยังระงับการใช้วัคซีนตัวนี้ไปก่อน ขณะที่มีการพิจารณาทบทวนผลดีผลเสียของวัคซีนของตัวเอง
สหราชอาณาจักร ซึ่งไม่มีการระงับการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกา ระบุว่า ซัพพลายวัคซีนที่ล่าช้าในเดือนเม.ย. จะไม่ส่งผลกระทบกับโรดแม็ปคลายล็อกดาวน์ของอังกฤษ
หน่วยงานสาธารณสุขเตือนเกี่ยวกับจำนวนที่ลดลงอย่างชัดเจนของซัพพลายวัคซีนโควิดในอังกฤษเดือนหน้า หลังจากจำนวนวัคซีนที่จัดส่งมาจากอินเดียลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้แต่แรก
จอห์นสันระบุว่า รัฐบาลยังไม่มีการเปลี่ยนแผนที่จะคลายมาตรการคุมเข้มทางสาธารณสุข โดยย้ำว่ายังเป็นไปตามโรดแม็ป แม้จะมีซัพพลายวัคซีนลดลงก็ตาม
จนถึงตอนนี้ สหราชอาณาจักรมีผู้ติดเชื้อสะสมจากโควิด-19 สูงถึง 4.2 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิต 126,163 ราย จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์