เฟดคาดสหรัฐฯโตพุ่ง/ไม่ปรับดอกเบี้ย
วอชิงตัน – เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด รายงานว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯมีแนวโน้มจะเติบโตแข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 40 ปี และเฟดจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยแม้คาดว่าเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นก็ตาม
หลังจากมีการประชุมนโยบายนานสองวัน เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดแถลงด้วยความเชื่อมั่นว่า จีดีพีสหรัฐฯจะเติบโตถึง 6.5% ในปีนี้ ด้วยอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจพร้อมความสำเร็จจากวัคซีนต้านโควิด-19
“ เช็ค (กระตุ้นเศรษฐกิจ) กำลังจะจ่ายแล้ว ตัวเลขผู้ติดเชื้อก็ลดลง และฉีดวัคซีนได้เร็วขึ้น” พาวเวลระบุ เป็นถ้อยแถลงสำคัญของเฟดที่คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯจะเติบโตเป็นคู่แข่งกับจีนได้ในปีนี้ แต่ไม่ได้เอ่ยถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดที่พุ่งขึ้นอีกในยุโรปและญี่ปุ่น
ที่จริงแล้ว เฟดคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะเติบโตสูงกว่าแนวโน้มอย่างน้อยอีกสองปีหน้า คือ 3.3% ในปี 2565 และ 2.2% ในปี 2566 เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์การเติบโตเพียง 1.8%
โดยคาดการณ์ว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะพุ่งเป็น 2.4% ในปีนี้ สูงกว่าเป้าของเฟดคือ 2% พาวเวลระบุว่า เขามองว่าเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นชั่วคราว ซึ่งจะไม่เปลี่ยนคำมั่นของเฟดที่จะคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% เพื่อให้แน่ใจว่าได้ฟื้นฟูบาดแผลทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 ได้อย่างเต็มที่
“ เรารับปากที่จะให้การสนับสนุนเศรษฐกิจเพื่อให้พลิกฟื้นกลับสู่การจ้างงานอย่างเต็มรูปแบบโดยเร็วที่สุด” พาวเวลระบุในการแถลงข่าวของเฟดเพื่อรายงานตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจใหม่และแถลงการณ์นโยบายล่าสุด
“ เรายังทำไม่สำเร็จ แต่ชัดเจนว่าเรามีหนทางที่ดี มี 10 ล้านคนที่จำเป็นต้องกลับไปทำงาน”
ตลาดหุ้นสหรัฐฯขานรับข่าวนี้ ด้วยตัวเลขปิดตลาดในแดนบวกโดยดัชนี S&P 500 และดาวโจนส์ปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์
เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ครั้งแรกของเฟดในช่วงเกิดโควิด-19 ในเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว แถลงการณ์ล่าสุดในวันที่ 17 มี.ค.นี้ ถือเป็นการพลิกกลับอย่างสิ้นเชิงหลังจากหนึ่งปีของความกังวลว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหม่ และในช่วงเกิดโควิด-19 มีผู้เสียชีวิตเกิน 500,000 รายในสหรัฐฯ
คาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ 4.5% ในสิ้นปีนี้ เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ว่าจะสูงถึง 6.4% และคาดการณ์ว่าจะลดต่ำลงอีกในปีหน้า แตะระดับที่ครั้งหนึ่งถูกพิจารณาว่าใกล้ หรือต่ำกว่าความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ที่ว่าเป็นการจ้างงานเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า จีดีพี 6.5% จะเป็นตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดประจำปีของสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2527 เป็นต้นมา
เฟดระบุว่า ตัวเลขเงินเฟ้อจะลดลงมาอยู่ที่ 2% ในปีหน้า
“ เมื่อพิจารณาถึงเศรษฐกิจที่ทรุดหนักในปีที่แล้ว นี่ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นดีใจมาก” ซีมา ชาห์ หัวหน้านักกลยุทธ์ประจำ Principle Global Investors