ฮ่องกงไม่มาฉีดวัคซีนโควิดมากขึ้น
ฮ่องกง – มีชาวฮ่องกงน้อยลงที่มาปรากฎตัวตามคิวที่ลงทะเบียนเพื่อฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 จากบริษัทซิโนแวคไบโอเทคของจีน เนื่องจากมีรายงานผลข้างเคียงของวัคซีน ขณะที่มีความต้องการฉีดวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคสูงมากในวันเริ่มโครงการ
โดยเมื่อวันที่ 10 มี.ค. จำนวนประชาชนที่ได้รับคิวฉีดวัคซีนของซิโนแวคที่ศูนย์ฉีดวัคซีนลดลงมาอยู่ที่ 72% ลดลงจากเดิมคือกว่า 90% ในสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ กว่า 1 ใน 3 ของผู้ที่ลงทะเบียนรับวัคซีน หรือประมาณ 36% ไม่มาปรากฎตัวเพื่อฉีดวัคซีน
วัคซีนของไฟเซอร์ ซึ่งนำเข้ามาโดยบริษัท Shanghai Fosun มีการกระจายฉีดให้กับประชาชนถึง 91% ที่ลงทะเบียนในวันที่ 10 มี.ค. ซึ่งเป็นวันแรก
มีผู้ไม่มาฉีดวัคซีนของซิโนแวคตามคิวที่นัดไว้ หลังจากทางการฮ่องกงรายงานผู้เสียชีวิต 3 ราย และมีอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงจากทั้งหมดกว่า 130,000 คนที่ฉีดวัคซีนในวันเดียวกัน
แม้จะยังไม่มีหลักฐานที่ชี้ถึงความเชื่อมโยงกับวัคซีนของซิโนแวค แต่กลับมีผู้ที่ลังเลใจที่จะฉีดวัคซีนมากขึ้นเรื่อยๆ
ทางการเบื้องต้นตัดความเป็นไปได้ว่ามีความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนและผู้เสียชีวิตสองรายแรกและผู้มีอาการรุนแรง ขณะที่ยังมีการวิเคราะห์รายงานเพิ่มขึ้น
“ เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่า บางคนอาจกังวลเกี่ยวกับอาการไม่พึงประสงค์ล่าสุดและการเสียชีวิตหลังการฉีดวัคซีน” แพทริก นิป รมว.กระทรวงราชการพลเรือนระบุเมื่อวันที่ 9 มี.ค.
โดยเขาระบุว่า จะมีการพิจารณาทบทวนผลข้างเคียงทั้งหมดอย่างใกล้ชิดโดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ
ฮ่องกงเริ่มโครงการฉีดวัคซีนในวันที่ 26 ก.พ. โดยให้ความสำคัญลำดับแรกกับผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป , เจ้าหน้าที่ดูแลสุขภาพ และพนักงานภาคส่วนสำคัญอื่นๆ
เริ่มตั้งแต่ 9 มี.ค. ได้ขยายกลุ่มสำคัญกลุ่มแรกให้ครอบคลุม 3.7 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนประชากรทั้งหมดของฮ่องกง โดยเพิ่มบุคคลในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงอื่นๆ เช่น ครู พนักงานขับรถขนส่งสาธารณะ และพนักงานร้านอาหาร
ประเทศอื่นๆก็มีรายงานการเสียชีวิตของผู้ที่ได้รับวัคซีน แม้จำนวนจะน้อยและเกือบทั้งหมดมีโรคประจำตัว
ขณะเดียวกัน ดร.ซามูเอล กว๊อก ผอ.ศูนย์วัคซีนชุมชนในเขตจอร์แดน ระบุว่า เป็นเรื่องสำคัญที่บุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานในศูนย์วัคซีนไม่ไขว้เขวไปกับคนที่ต้องการปรึกษาพูดคุยเรื่องความกังวลด้านสุขภาพ
“กระบวนการฉีดวัคซีนที่ศูนย์ของชุมชน ง่ายและสะดวกสบาย และฉีดเร็วด้วย” สถานี RTHK รายงานโดยอ้างอิงคำพูดของเขา
“ แต่หากเราเริ่มที่ศูนย์ที่ปรึกษาการแพทย์ มันจะต่างไปทั้งหมด และจะไม่ช่วยมากนัก เพราะแพทย์ในศูนย์ไม่ใช่แพทย์ที่ดูแลพวกเขาตั้งแต่แรก”
“ จึงเป็นเรื่องดีกว่า หากผู้ฉีดมีความกังวล มีปัญหา มีคำถาม ก็ควรไปถามแพทย์ที่รักษาพวกเขา”