ออสเตรียระงับวัคซีน ‘แอสตราเซเนกา’
เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ทางการออสเตรียสั่งระงับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกาเป็นการชั่วคราว เพื่อทำการสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ที่ฉีดรายหนึ่ง และผู้มีอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงหลังฉีดอีกรายหนึ่ง
“ สำนักงานความปลอดภัยการดูแลสุขภาพ (BASG) ได้รับรายงาน 2 ฉบับว่า อาจมีความเชื่อมโยงกับการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาล็อตเดียวกันในคลินิกที่เขตซเวตเทิล ” ในรัฐโลเวอร์ออสเตรีย
มีรายงานว่า หลังฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกา หญิงวัย 49 ปีคนหนึ่งเสียชีวิตจากการแข็งตัวของเลือดผิดปกติรุนแรง ขณะที่หญิงวัย 35 ปีอีกคน มีอาการโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอดและรักษาหายแล้ว
ทาง BASG ระบุว่า “ปัจจุบัน ยังไม่มีหลักฐานชี้ว่า มีความเชื่อมโยงกันว่าการฉีดวัคซีนทำให้เสียชีวิตได้ ”
หนังสือพิมพ์ออสเตรีย Niederoesterreichische Nachrichten รวมถึงสถานีโทรทัศน์ ORF และสำนักข่าว APA รายงานว่า หญิงที่ได้รับวัคซีนทั้งสองคนเป็นพยาบาลที่ทำงานประจำคลินิกที่ซเวตเทิล
BASG ระบุว่า การแข็งตัวของเลือดไม่ใช่ผลข้างเคียงของวัคซีน โดยได้มีการเร่งดำเนินการสืบสวนหาสาเหตุเพื่อขจัดความเชื่อมโยงที่อาจเกิดขึ้น
“เพื่อเป็นมาตรการป้องกัน จะไม่มีการนำวัคซีนที่เหลืออยู่ในล็อตเดียวกันมาฉีดให้ประชาชนอีก”
ขณะที่โฆษกของบริษัทแอสตราเซเนการะบุว่า “ ไม่มีการยืนยันอาการไม่พึงประสงค์ร้ายแรงที่เชื่อมโยงกับวัคซีน” โดยเสริมว่า วัคซีนทุกล็อตผ่านระบบการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดและแม่นยำ
จนถึงตอนนี้ ผลการทดลองและประสบการณ์ในการฉีดให้ประชาชนชี้ว่า วัคซีนมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพและผ่านการอนุมัติรับรองให้ใช้งานได้จากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก
แอสตราเซเนกายังระบุว่า มีการประสานงานติดต่อกับทางการออสเตรียแล้วและบริษัทจะให้ความร่วมมือในการสอบสวนอย่างเต็มที่
หน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องยาของสหภาพยุโรปประกาศอนุมัติรับรองวัคซีนช่วงปลายเดือนม.ค. โดยระบุว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับการใช้งาน ขณะที่องค์การอนามัยโลกประกาศรับรองวัคซีนตั้งแต่กลางเดือนก.พ.
ที่ผ่านมา มีรายงานอาการไม่พึงประสงค์กับอาสาสมัครเกิดขึ้นเป็นช่วงสั้นๆในการทดลองส่วนใหญ่ แต่ไม่มีรายงานเรื่องการแข็งตัวของเลือด
ขณะที่หน่วยงานที่กำกับดูแลด้านวัคซีนของเยอรมนี ซึ่งมีผู้ฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาไปแล้วกว่า 360,000 คนประเมินว่าอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีนสอดคล้องกับความปลอดภัยที่ระบุจากการทดลองทางคลินิก
